อินทรี เป็นนกจำพวกนกล่าเหยื่อขนาดใหญ่ ในวงศ์ Accipitridae อันดับ Falconiformes (วงศ์และอันดับเดียวกับ เหยี่ยว) มีโครงสร้างทางกายภาพที่แข็งแรง ประกอบด้วยโครงกระดูก กล้ามเนื้อ ส่วนต่าง ๆ ขน และกรงเล็บเป็นหลัก จัดอยู่ในประเภทนกที่ล่าเหยื่อเป็นอาหาร มีขนาด ปีก และ หาง ที่กว้าง ลักษณะปลายปีกแหลมหรือปีกแตก จะงอยปากงองุ้มเป็นตะขอ อินทรีเป็นนกที่มีลักษณะสวยงาม แข็งแรง สายตาคม บินเร็ว โจมตีแม่นยำ มองเห็นเป้าหมายได้จากระยะไกล มีเพดานบินตั้งแต่พื้นราบจนถึงความสูง 2,100 เมตร และจัดได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีสายตาดีที่สุดในโลก อีกทั้งยังถือเป็นนกหรือสัตว์ปีกที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีอายุได้มากถึง 70 ปีส่วนใหญ่จะมีสีเข้มและสร้างรังบนหน้าผาที่สูงชัน
9 งู อนาคอนดา เขียว
8 หมีกริซลี
หมีกริซลี มีรูปร่างและสีขนทั่วไปเหมือนกับหมีสีน้ำตาลทั่วไป แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ หมีกริซลีจะมีขนาดรูปร่างและน้ำหนักใหญ่กว่ามาก มีส่วนจมูกและปากที่ยื่นแหลมออกมา และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากตรงบริเวณระหว่างหัวไหล่ของขาหน้าทั้ง 2 ข้าง ที่ปูดเป็นหนอกขึ้นมา ซึ่งไม่มีในหมีชนิดอื่น ๆ ซึ่งทำให้หมีกริซลีมีพละกำลังในการขุด, ตะปบ, ปีนป่าย และวิ่ง ซึ่งความเร็วในการวิ่งเร็วถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีเล็บนิ้วยาวและแข็งแรง แหลมคม ซึ่งมีความยาวพอ ๆ กับนิ้วมือมนุษย์
7 วัว
วัวสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรง มีการนำวัวมาใช้งานตั้งแต่ 4000 ก่อนคริสต์กาล วัวเพศผู้จะมีความยาวของลำตัวประมาณ 2-2.3 เมตรและมีน้ำหนักถึง 640 กิโลกรัม วัวมีความแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักได้ถึง 800 กก.
วัวส่วนใหญ่จะใช้สำหรับไถนาและดึงรถ แม้ว่าพวกมันจะเดินช้า อืดอาดก็ตามแต่ แต่มันสามารถรับภาระหนัก ของสิ่งของ และอื่นๆ ได้นานกว่าสัตว์อื่น ๆ เช่น ม้า ลา
6 เสือ
เสือเป็นที่แข็งแกร่งที่สุดและใหญ่ที่สุดในสัตว์ตระกูลแมว พวกมันมักอาศัยอยู่ใกล้กับหนองน้ำ ป่าฝน และที่ดินหญ้า
ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสิบ 10 สายยพันธุ์ย่อยของเสือในโลก เสือไซบีเรียเป็นหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่สามารถมีขนาดความยาวได้ถึง 75-91 นิ้ว และมีน้ำหนักได้ถึง 306 กก.เสือมีขากรรไกรที่มีประสิทธิภาพมากและ ฟันทั้งหมด 30 ซี่ เขี้ยวบนของเสือมีความยาว ถึง 10 เซนติเมตรที่ออกแบบมาไว้ใช้สำหรับฉีกขาดเนื้อ เสือเป็นนักล่าที่น่ากลัวและสามารถมีพละกำลังได้มากกว่า 2 เท่าของน้ำหนักร่างกายของพวกมัน ความแข็งแรงของพวกมันยังสามารถเอาชนะสิงโตได้อีกด้วย
5 กอริวล่า
กอริลลา เป็นเอปที่อยู่เป็นสังคม คือ เป็นฝูง แต่ทั้งฝูงจะมีจ่าฝูงเป็นตัวผู้ที่โตเต็มที่เพียงตัวเดียว กอริลลาตัวผู้ที่โตเต็มที่อาจมีความสูงกว่า 6 ฟุต (180 เซนติเมตร) เมื่อยืนตรงด้วยสองขาหลัง ร่างกายเต็มเปี่ยมด้วยกล้ามเนื้อที่มีความบึกบึนแข็งแรงมากกว่ามนุษย์ถึง 6 เท่า กอริลลาเมื่อตกใจหรือต้องการขู่ผู้รุกรานจะลุกขึ้นด้วยสองขาหลัง และทุบหน้าอกรัว ๆ ด้วยสองแขน พร้อมกับคำรามก้อง จึงทำให้ดูเหมือนสัตว์ที่มีความดุร้ายยิ่งขึ้น ทั้งที่จริงแล้ว กอริลลาเป็นสัตว์ที่รักสงบ และขี้อาย ไม่เคยใช้พละกำลังหากไม่ถูกรบกวนก่อน
4 ช้างป่าแอฟริกา
ช้างแอฟริกา หรือ ช้างแอฟริกัน African elephant เป็นช้างสกุลหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกา จากหลักฐานฟอสซิลที่ค้นพบทำให้ทราบว่า ช้างแอฟริกาอาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกามาตั้งแต่ยุคไพลสโตซีน
1.ช้างพุ่มไม้แอฟริกา (Loxodonta africana) มีขนาดใหญ่ที่สุด รูปร่างกำยำลั่นสัน อาศัยตามทุ่งโล่งหรือพุ่มไม้ทั่วไป
2.ช้างป่าแอฟริกา (Loxodonta cyclotis) มีขนาดเล็กลงมา อาศัยอยู่ในป่าบริเวณใจกลางทวีปแอฟริกา
ช้างพุ่มไม้แอฟริกันสามารถยกได้ถึงน้ำหนักของ 9 ตัน เพราะตัวของพวกมันยังมีความแข็งแรงมาก มันมีกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นมากกว่า 40,000 เส้นเลยทีเดียวและมีน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัมของน้ำหนักตัว ช้างพุ่มไม้แอฟริกันนั้นยังมีขนาดของใบหูใหญ่กว่าช้างเอเชียอีกด้วย
ช้างป่าแอฟริกาตัวผู้จะมีงาที่มีขนาดความยาว 2.5 เมตรและมีน้ำหนักได้ถึง 45 กก. พวกมันใช้งาของพวกมันเพื่อปกป้องผู้ล่าและต่อสู้กับช้างแอฟริกันอื่น ๆ
มดตัดใบไม้ (leaf-cutter ants) นับเป็นความมหัศจรรย์มากมาย ที่มดพวกนี้ได้สร้างแหล่งอาหารเลี้ยงตัวเอง ด้วยการดำรงชีวิตด้วยการตัดใบไม้ไปเลี้ยงรา ในรังของมัน แล้วก็นำเชื้อราที่ได้ไปเป็นอาหารของตัวอ่อน และตัวของมดเอง จึงถือว่าเป็นสัตว์ชนิดแรกของโลกที่รู้จักเทคนิคการทำฟาร์ม งานที่ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของมดงาน ก็คือแต่ละวัน ๆ จะต้องออกไปเที่ยวตัดใบไม้แล้วขนมาที่รัง .... มดเหล่านี้ไม่ได้ใบไม้เหล่านี้โดยตรง แต่มันเอาเศษใบไม้สดเหล่านี้ไปเก็บไว้ในรังของพวกมัน โดยที่เศษใบไม้จะถูกเคี้ยวเป็นชิ้นละเอียด แล้วผสมกับมูลมดเพื่อเป็นเชื้อสำหรับเพาะรา foraged ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดพิเศษที่ไม่พบที่อื่นใดนอกจากในรังมดชนิดนี้เท่านั้น ราพิเศษนี้แหละที่เป็นอาหารของมดอีกที มดตัดใบไม้ จะมีกราม (mandibles) และถ้ากรามของมดพวกนี้ลดความคมลง ก็เปลี่ยนหน้าที่เป็นขนใบไม้
มดงาน จะทำหน้าที่ตัดใบไม้จะกัดใบไม้ด้วยกราม (mandibles) ของมัน คล้ายๆ กับเราตัดผ้าด้วยกรรไกร ซึ่งแน่นอนว่าในที่สุดความคมมันก็จะลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นเราก็คือเปลี่ยนกรรไกรใหม่ แต่มดมันถอดกรามไม่ได้ อีกอย่างไม่มีอะไหล่เปลี่ยนด้วย ทีมวิจัยที่นำโดย Robert Schofield แห่ง University of Oregon ได้ค้นพบว่า เมื่อฟันของมดงานพวกนี้ทื่อเกินกว่าจะตัดใบได้อย่างมีประสิทธิภาพ มดงานจะสลับไปทำหน้าที่อื่นๆ เช่น ขนใบไม้กลับรัง ปล่อยให้มดงานตัวอื่นที่กรามยังใหม่อยู่เข้ามารับหน้าที่แทน
2 ด้วงกว่าง
ด้วงกว่าง หากินในเวลากลางคืน โดยจะกินยางไม้จากเปลือกไม้ของต้นไม้ใหญ่ในป่า รวมถึงผลไม้หรือพืชบางชนิดเป็นอาหารด้วย จึงจัดเป็นแมลงศัตรูพืชอย่างหนึ่ง และเหมือนกับแมลงอย่างอื่น คือ เมื่อพบแสงไฟก็จะบินเข้าหา
ด้วงกว่างมีความผูกพันกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน โดยใช้ทำเป็นเครื่องประดับหรือรับประทานเป็นอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยในหลายพื้นที่ เพราะเหตุที่สามารถต่อสู้กันได้ จนเกิดเป็นเทศกาลหรือประเพณีท้องถิ่น เช่น ที่ประเทศญี่ปุ่นและภาคเหนือของไทย
ด้วงกว่างมีความผูกพันกับมนุษย์มาอย่างยาวนาน โดยใช้ทำเป็นเครื่องประดับหรือรับประทานเป็นอาหาร อีกทั้งยังเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยในหลายพื้นที่ เพราะเหตุที่สามารถต่อสู้กันได้ จนเกิดเป็นเทศกาลหรือประเพณีท้องถิ่น เช่น ที่ประเทศญี่ปุ่นและภาคเหนือของไทย
1 ด้วงขี้ควาย
ด้วงขี้ควายมีขนาดของลำตัวใหญ่โดยทั่วไป มีสีน้ำตาลแดงเข้ม ลำตัวเป็นรูปไข่ หนวดแบบใบไม้ ปากแบบปากกัด ขาคู่หน้าเป็นแผ่นแบนมีลักษณะแบนกว้าง ด้านหน้าสุดของหัวเป็นแผ่นแบบกว้าง ด้านหน้ามน มีปีกแข็งคลุมมิด อาศัยอยู่ตามกองมูลสัตว์หรือในดิน ถ้ามีแมลงชนิดนี้อยู่จะมีรอยขุดอยู่ที่กองมูลสัตว์ จับได้โดยใช้ไม้คุ้ยหรือขุดลงไปในดิน เมื่อได้ตัวแล้วต้องใส่ถังตั้งทิ้งไว้หนึ่งคืนเพื่อให้แมลงถ่ายสิ่งสกปรกออกมาแล้วนำไปแช่น้ำ และล้างให้สะอาดรับประทานได้ เช่นเดียวกับแมลงกินูน แต่ถ้าเป็นกุดจี่ขี้คนไม่นิยมนำมาบริโภคแต่นิยมใช้เป็นยารักษาโรคทรางในเด็ก
ที่มา themysteriousworld
ที่มา themysteriousworld