เดนมาร์กเป็นหนึ่งในประเทศที่พัฒนามากที่สุดในโลก ณ ในเวลานี้ ราชอาณาจักรเดนมาร์กได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่ผสมเห็นว่าประเทศที่ขาดทรัพยากรแร่ใด ๆ ที่สำคัญอื่น ๆ ที่ไม่ใช่น้ำมันและก๊าซสถานการณ์ที่นำไปสู่พวกเขาในการพัฒนาเศรษฐกิจที่อาศัยทรัพยากรมนุษย์เหนือสิ่งอื่นใด และมาตรฐานการครองชีพที่สูงมาก พวกเขามีอยู่ที่ GDP 210.1 พันล้าน $ มีรายได้ $ 37,657 ต่อหัว ต่อปี
9 สิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในโลกที่มีการยกมาตรฐานของการอยู่อาศัยอย่างมากในเวลาเพียงไม่กี่ปี เพลิดเพลินกับการค้าเชิงเศรษฐกิจตลาดสิงคโปร์มีจีดีพี 326.5 พันล้าน $ และมีรายได้ประมาณ $ 60,000 ต่อหัว ต่อปี คนที่อยู่ในสิงคโปร์มีอายุขัยกว่า 84.38 ปี มากเกินกว่าส่วนใหญ่ประเทศในเอเชียอื่น ๆ
8 แคนาดา
แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่โดยไม่ต้องสงสัย แคนาดาไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในประเทศที่พัฒนามากที่สุดในโลก แต่ยังเป็นหนึ่งในที่ร่ำรวยที่สุด เเละเศรษฐกิจที่อยู่บนพื้นฐานของอุตสาหกรรมการบริการควบคู่ไปกับการสำรองน้ำมันและแร่ธาตุมากมาย แคนาดามีจีดีพีของ $ 1500000000000 มีรายได้ประมาณ $ 42,000 ต่อหัว ต่อปี ประชากรมีอายุขัย 81.67 ปี
7 นิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์มีเศรษฐกิจการตลาดซึ่งเป็นหลักขึ้นอยู่กับการเกษตร, การผลิต, และการท่องเที่ยว ประชากรในนิวซีแลนด์มีอายุขัย 80.93 ซึ่งเป็นค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือของโลก พวกเขามีจีดีพีจาก 132 $ พันล้าน ซึ่งแบ่งมีรายได้ของประชากรประมาณ $ 29,000 ต่อหัว ต่อปี
6 เยอรมนี
เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรมมากที่สุดในโลกอุตสาหกรรมซึ่งมีรายได้ของประเทศอยู่ที่ $ 3,200,000,000,000 เศรษฐกิจของประเทศด้วย มีรายได้ของประชากรประมาณ $ 39,000 ต่อหัว ต่อปีและประชากรในเยอรมนีมีอายุขัย 80.44 ปี ในฐานะที่เป็นประเทศที่มีฟังก์ชั่นเยอรมนีบนหลักการของเศรษฐกิจตลาดสังคม แต่ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกใหญ่ที่สุดของโลกที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุเช่นเหล็กนิกเกิลทองแดงและก๊าซธรรมชาติ
5 สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกาเกือบเป็นหนึ่งในสี่ของโลก มาจาการรวมจีดีพีกับเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามากกว่า $ 15700000000000 นี้แปลเป็น $ 49,000 ต่อหัว ต่อปี แต่ที่น่าแปลกใจว่าชาวอเมริกันที่มีอายุขัยเพียง 78.75 ปี ในแง่ของ HDI สหรัฐมีดัชนี 0.914 ซึ่งทำให้เป็นที่ 5 ของประเทศที่พัฒนามากที่สุดของโลกในโลก ในแง่ของความกล้าหาญของเศรษฐกิจประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและพวกเขานำไปสู่ตลาดระดับโลกในแง่ของเทคโนโลยี
4 เนเธอร์แลนด์
จากการอยู่ใกล้ทะเล ทำให้มีโอกาสได้เห็นการค้าทางเรือผ่านไปมาเสมอ ทำให้เป็นแรงบรรดาลใจให้สนใจทำการค้า รวมทั้งการค้าขายทางเรือตามไปด้วย เพราะสามารถไปได้ไกล ๆ จนมีการค้ากับประเทศในแถบเอเชียและอเมริกามาแต่สมัยโบราณ ยิ่งไปกว่านั้น การที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีทรัพยากรธรรมชาติไม่มาก ชาวดัตช์ต้องอาศัยการเกษตรกรรม การประมง เลี้ยงสัตว์ ไม่มีแร่ธาตุสำคัญ (น้ำมัน และกาซธรรมชาติมาค้นพบในระยะหลังๆ) ดังนั้น จึงต้องอาศัยการค้าเป็นหลัก เพื่อความอยู่รอด จนได้รับการขนานนามว่าเป็นชาตินักการค้า (Trading nation) และประสบความสำเร็จในด้านการค้ามาตลอด ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ความเชี่ยวชาญด้านการค้านั้น ดูได้จากการค้าระหว่างประเทศของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น และได้เปรียบดุลการค้ามาตลอดหลายปีติดต่อกัน และยังมีเศรษฐกิจมูลค่า 707,000,000,000 $ มีรายได้ของประชากรประมาณ $ 42,194 ต่อหัว ต่อปี และประชากรในเนเธอร์แลนด์มีอายุขัย 81.12 ปี
3 สวิตเซอร์แลนด์
วิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเพลิดเพลินกับ 363.4 พันล้าน $ เศรษฐกิจที่หยุดพักลงไป มีรายได้ของประชากรประมาณ $ 45,418 ต่อหัว ต่อปี นี้ถูกกล่าวว่าวิตเซอร์แลนด์ประชากรมีอายุขัย 81.38 ปี ในแง่ของเศรษฐกิจวิตเซอร์แลนด์นอกจากนี้ยังมีหนึ่งในประเทศที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลกบนพื้นฐานของการรักษาความปลอดภัยในระยะยาวเงินเชี่ยวชาญแรงงานสูงการค้าและสินค้าอุปโภคบริโภค
2 ออสเตรเลีย
ออสเตรเลียมี HDI ของ 0.933 และ GDP อยู่ที่ $ 970 พันล้าน ทำให้ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ออสเตรเลียทำให้มีรายได้ของประชากรประมาณ $ 42,640 ต่อหัว ต่อปี ประชากรมีอายุขัย 82.07 ปีทำให้พวกเขาสองประเทศที่พัฒนามากที่สุดในโลก เศรษฐกิจของพวกเขามากขึ้นอยู่กับภาคบริการที่มีการทำเหมืองแร่และการเกษตรยังเอื้อต่อความมั่งคั่งอันยิ่งใหญ่ของออสเตรเลีย
1 นอร์เวย์
เศรษฐกิจของประเทศนอร์เวย์ได้รับการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นของยุคอุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่ยืนอยู่ที่หลักมี GDP 277.1 พันล้าน $ ของนอร์เวย์ โดยมีรายได้ของประชากรประมาณ $ 55,009 ต่อหัว ต่อปีและประชากรมีอายุขัย 80.57 ปีทำให้นอร์เวย์หนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่จะอยู่อาศัย
ที่มา peimag.com
