Type Here to Get Search Results !

ตำแหน่งใหญ่ 10 นักการเมืองทุจริตมากที่สุดในโลก


10 โจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์


Most Corrupt Politicians

   เอสตราดาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในปี พ.ศ. 2540 และชนะการเลือกตั้งอย่างขาดลอย เนื่องจากชื่อเสียงเดิมในฐานะพระเอกภาพยนตร์ยอดนิยม เขาพ้นจากตำแหน่งหลังจากถูกยื่นถอดถอน ด้วยข้อหาคอร์รัปชัน และถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาฉ้อฉล ในปี พ.ศ. 2550 โดยจำนวนเงินที่เขาคอรัปชั่นประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ แต่ได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีกลอเรีย มาคาปากัล-อาร์โรโย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในสมัยของเอสตราดา ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี พ.ศ. 2553 เอสตราดาได้ลงสมัครอีกครั้ง แต่พ่ายแพ้ให้กับเบนิกโน อากีโนที่ 3

9 อาร์นอลโด อะเลอมาล Arnoldo Aleman อดีตประธานาธิบดีของประเทศนิการากัว


Most Corrupt Politicians

   อาร์นอลโด อะเลอมาล เขาเป็นอดีตประธานาธิบดีของประเทศนิการากัว ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ. 2542 ถึง พ.ศ.2545 และเขาได้ทุจริตยักยอกเงินของประเทศไปประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ และหลังจากนั้นเขาได้ถูกศาลดำเนินคดีแลถูกตัดสินจำคุก 20 ปี จาการทุจริต

8 ปาลโล ลาซาเรนโก้ Pavlo Lazarenko อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศยูเครน


Most Corrupt Politicians

  ปาลโล ลาซาเรนโก้ อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศยูเครน ได้ทุจริตคอรัปชั่นเงินของประเทศไปทั้งสิ้น ราว 200 ล้านดอลลาร์ โดยเขาใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบังหน้าเพื่อทุจริตคอรัปชั่น 

 7 อัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเปรู


Most Corrupt Politicians

   อัลแบร์โต ฟูจิโมริ เป็นชาวเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศเปรูระหว่าง 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ฟูคีโมรีเป็นผู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจเปรูที่ตกอยู่ในภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรงและจัดการกับผู้ก่อการร้ายในประเทศ แต่ภายหลังเขาโดนข้อหาการทุจริตในตำแหน่งหน้าที่และละเมิดสิทธิมนุษยชนจนต้องหลบหนีออกนอกประเทศในปี พ.ศ. 2543 ไปอาศัยที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2549 ฟูคีโมรีถูกจับหลังเดินทางมาประเทศชิลี เขาถูกนำตัวไปดำเนินคดีและโดนลงโทษจำคุก 6 ปี ในข้อหาการใช้อำนาจโดยมิชอบโดยการทุจริตคอรั่ปชั่นเงินของประเทศไปกว่า 600 ล้านดอลลาร์

6 คีน โคลด ดูวาลิเยร์ อดีตประธานาธิบดีของประเทศเฮติ

Most Corrupt Politicians

   คีน โคลด ดูวาลิเยร์ อดีตประธานาธิบดีของประเทศเฮติ ดำรงตำแหน่งระหว่างปี พ.ศ. 2514-2529 ในระหว่างที่ คีน โคลด ดูวาลิเยร์ ดำรงตำแหน่งอยู่นั้นได้ทำการทุจริตยักยอกเงินในประเทศประมาณ 300-800 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว

5 ซานิ อาบาชา Sani Abacha อดีตประธานาธิบดีของไนจีเรีย

Most Corrupt Politicians

   ซานิ อาบาชา Sani Abacha อดีตประธานาธิบดีของไนจีเรีย เมื่อเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ในระหว่างปี พ.ศ. 2536-2541เขาได้ใช้ตำแหน่งในการยักยอกเงินไปกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ 

4 สโลโบดัน มิโลเซวิค Slobodan Milosevic อดีตประธานาธิบดียูโกสลาเวีย

Most Corrupt Politicians

  สโลโบดัน มิโลเซวิค อดีตประธานาธิบดียูโกสลาเวีย ที่ได้ทำการทุจริตในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ระหว่างปี พ.ศ. 2532-2543 โดยยักยอกเงินไปประมาณ 1,000 ลานดอลลาร์เลยทีดียว

3 โมบูตู เซเซ เซโก อดีตประธานาธิบดีของซาอีร์

  Most Corrupt Politicians

  โมบูตู เซเซ เซโก อดีตประธานาธิบดีของซาอีร์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ระหว่างปี พ.ศ. 2508-2540 แล้วได้ยักยอกเงินไปทั้งสิ้น 5,000 ล้านดอลลาร์ 

2 เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์
   
Most Corrupt Politicians

   เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 10 ของฟิลิปปินส์ เคยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965-ค.ศ. 1986 เป็นเวลาเกือบ 21 ปี และพ้นจากตำแหน่งโดยการหลบหนีออกนอกประเทศ หลังการลุกฮือของประชาชน ในปี ค.ศ. 1986 ซึ่งนำโดยนางคอราซอน อากีโน ภริยาหม้ายของนายเบนิโญ อากีโน อดีตนักการเมืองฝ่ายค้าน โดยมีสาเหตุหลักมาจาก การปกครองแบบเผด็จการ รวมถึงการทุจริตคอรัปชั่นซึ่งเป็นเงินราวๆ 5-10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่โกงมากที่สุดรองจาก ซูฮาร์โต เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เสียชีวิตที่โฮโนลูลู ฮาวาย ขณะลี้ภัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก่อนเสียชีวิตกำลังถูกทางการฟิลิปปินส์ ยื่นเรื่องขออายัดทรัพย์สิน และดำเนินคดีในข้อหาใช้อิทธิพลคอรัปชั่น ในระหว่างดำรงตำแหน่งทางการเมือง

1 ซูฮาร์โต อดีตประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย

Most Corrupt Politicians

    ซูฮาร์โต เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย และเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียาวนานที่สุดของประเทศเป็นเวลา 32 ปี โดยได้รับฉายาจากนานาชาติโดยเฉพาะประเทศโลกตะวันตกว่า "The Smiling General"ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซูฮาร์โตเป็นผู้นำทางทหารในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของ ญี่ปุ่นและฮอลันดา เรื่อยมาจนได้รับยศพลตรี ซูฮาร์โตมีบทบาทมากจากเหตุการณ์ปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์อินโดนีเซีย ในการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1965 จนได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากซูการ์โนในปี 1968 จนถึงวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1998 จึงได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากการเดินขบวนต่อต้านจากนักศึกษาและประชาชน
   ซูฮาร์โต ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในบรรดานักการเมืองที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก ด้วยตัวเลขเงินที่คอร์รัปชันไปถึง 15-35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ





ที่มา wonderslist

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.

Top Post Ad