Type Here to Get Search Results !

เหม็นหึ่ง ! 10 สุดยอด สัตว์ที่ตัวเหม็นที่สุดในโลก

 สัตว์ต่างๆ มีกลไกการป้องกันตัวเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง สัตว์บางชนิดใช้กลิ่นกลิ่นเหม็นของพวกมันเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพต่อการล่าและหลบหนีสตรูของพวกมัน มาดูสัตว์ที่มีกลิ่นตัวเหม็นที่สุดในโลก

1 Rat Snake



king ratsnake

  Rat Snake ( Elaphe species) เป็นกลุ่มชนิดงู ที่อยู่กระจาย ตามพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทาง เอเชีย อเมริกา ยุโรป คุณสมบัติคล้ายๆ กับงู Corn Snake นิสัยไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ เกล็ดแข็งและเรียบ มีรูปร่างที่เปรียวบาง และสีสันก็แล้วแต่สายพันธุ์ มันล่าเหยื่อในเวลากลางคืน โดยจับหนูกินเป็นอาหาร ส่วนในเวลากลางวัน มันจะอาสัยอยู่ตามโพรง พวกมันจะปล่อยกลิ่นที่น่ารังเกียจจากต่อม post-anal ทางทวารหนัก เมื่อถูกคุกคาม

2 แมลงหางหนีบ



earwig


   แมลงหางหนีบจะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในลำต้นและตามซอกกาบใบ  หรือตามซอกดินที่มีเศษใบไม้และสามารถหาเหยื่อตามซอกมุมได้ดี  การทำลายเหยื่อที่เป็นตัวหนอน  โดยการใช้แพนหางซึ่งมีลักษณะคล้ายคีมหนีบลำตัวเหยื่อแล้วกินเป็นอาหาร แต่ถ้าเป็นเพลี้ยอ่อนก็จะกัดกินโดยตรง แมลงหางหนีบเป็นแมลงที่มีศักยภาพในการนำไปใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด เมื่อถูกคุกคามจากสัตว์ต่าง ๆ เช่นกบ คางคกและแมลงชนิดอื่น มันฉีดของเหลวสีเหลืองจากต่อมกลิ่นเหม็นของมันเมื่อถูกคุกคาม เพื่อช่วยป้องกันพวกมันจากนักล่า 

3 นกหัวขวาน

wood hoope

  จะงอยปากที่แหลมยาวและแข็งแรงเหมือนลิ่มของนกหัวขวาน มีไว้เจาะลำต้นของต้นไม้ใหญ่ประเภทไม้ยืนต้นจนเป็นรูหรือเป็นโพรงได้เป็นอย่างดี ขณะที่เจาะต้นไม้อยู่นั้นจะได้ยินเสียงกังวาลไปไกลเป็นเสียง "ป๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ" เพื่อที่จะหาหนอนและแมลงที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกไม้และเนื้อไม้กินเป็นอาหาร ด้วยการใช้ลิ้นและน้ำลายที่เหนียวดึงออกมา ลิ้นของนกหัวขวานเมื่อยืดออกจะยาวมาก โดยลิ้นนี้จะถูกเก็บไว้โดยการพันอ้อมกะโหลก แล้วเก็บปลายลิ้นไว้ที่โพรงจมูกด้านในซึ่งการกระทำเช่นนี้นับว่าเป็นผลดีต่อต้นไม้ที่ช่วยกำจัดหนอนแมลงที่รบกวนได้ อันเป็นที่มาของชื่อสามัญทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จนได้รับฉายาว่า "หมอรักษาต้นไม้" แม้จะมีขนที่สวยงาม แต่สำหรับกลิ่นของพวกมัน เป็นกลิ่นที่เลวร้ายที่สุด เหมือนกับไข่เน่า แต่กลิ่นที่ถูกปล่อยออกมานี้ เป็นวิธีที่ใช้ในการปกป้องรังของมันจากสัตว์อื่น


4 แทสเมเนียน เดวิล



tasmanian devil

   แทสเมเนียน เดวิล มีขนาดใกล้เคียงกับสุนัขตัวเล็ก ๆ ถือเป็นมาร์ซูเปียลกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ไทลาซีนสูญพันธุ์เมื่อปี ค.ศ. 1936 เป็นสัตว์ที่มีนิสัยดุร้าย และถือว่าเป็นสัตว์ที่มีกรามขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับขนาดตัว แทสเมเนียน เดวิลจะปล่อยกลิ่นฉุนเมื่อถูกคุกคาม เพื่อป้องกันตัวจากนักล่า

5 วุลเวอรีน

 wolverine

   วุลเวอรีนเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารที่ชื่นชอบของมันคือกระต่ายและสัตว์ฟันแทะ แต่บางครั้งพวกมันก็กินพืชเป็นอาหารอย่างต้นไม้เตี้ย ๆ และเบร์รี วุลเวอรีนจึงเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและสัตว์ (omnivore) แต่มีแนวโน้มกินเนื้อมากกว่า ในฤดูหนาว เหยื่อของมันมักจะอ่อนแอ มันสามารถยขุดโพรงของเหยื่อและกินสัตว์ที่กำลังจำศีลอยู่ด้วย บางครั้งก็จะกินซากที่สุนัขป่ากินเหลือ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของประชากรสุนัขป่าจึงมีผลกระทบต่อประชากรวุลเวอรีน วุลเวอรีนมีนิสัยในการปล่อยกลิ่นฉุน พวกมันผลิตกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากต่อมทางทวารหนัก วุลเวอรีนปล่อยกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เพื่อใช้ในการทำเครื่องหมายอาณาเขตของมัน


6 แมลงสิง


stink bug

   แมลงสิง Leptocorisa oratorius (Fabricius) เป็น มวนชนิดหนึ่ง  ตัวเต็มวัยมีรูปร่างเพรียวยาวประมาณ 15 มิลลิเมตร  หนวดยาวใกล้เคียงกับลำตัว ลำตัวด้านบนสีน้ำตาล ลำตัวด้านล่างสีเขียว เมื่อถูกรบกวนจะบินหนี และปล่อยกลิ่นเหม็นออกจากต่อมที่ส่วนท้อง  ตัวเต็มวัยจะออกหากินช่วงบ่ายๆ และช่วงเข้ามืด และเกาะพักที่หญ้าขณะที่มีแสงแดดจัด เพศเมียวางไข่ได้หลายร้อยฟองในช่วงชีวิตประมาณ 2-3 เดือน วางไข่เป็นกลุ่มมี 10-12 ฟอง เรียงเป็นแถวตรงบนใบข้าวขนานกับเส้นกลางใบ ไข่มีสีน้ำตาลแดงเข้ม รูปร่างคล้ายจาน  ระยะไข่นาน 7 วัน  ตัวอ่อนมีสีเขียวแกมน้ำตาลอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และดูดกินน้ำเลี้ยงจากกาบใบข้าวก่อน ต่อมาเป็นตัวเต็มวัยจะเข้าทำลายเมล็ดข้าวในระยะข้าวเป็นน้ำนมจนถึงออกรวง  ตัวอ่อนมี 5 ระยะ

7 สกังก์

skunk

   สกังก์เป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการป้องกันตัว ด้วยการฉีดสารเคมีสีเหลืองที่มีกลิ่นฉุนมาก ตลบอบอวลไปในอากาศได้เป็นเวลานาน ซึ่งสารเคมีนี้ปล่อยมาจากต่อมลูกกลมคล้ายลูกองุ่น 2 ต่อมใกล้ก้น เมื่อสกังก์จะปล่อยจะใช้กล้ามเนื้อบีบพ่นออกมา ซึ่งสามารถพุ่งได้ไกลถึง 25 ฟุต แม้จะหันหลังให้ก็ตาม แต่ก็สามารถปล่อยได้แม่นยำโดยเฉพาะใส่บริเวณใบหน้าและดวงตาของผู้รุกราน ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้รู้สึกแสบร้อน และตาบอดไปชั่วขณะ เพื่อที่สกังก์จะได้มีเวลาหนี แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้กับสัตว์นักล่าทุกประเภท เช่น นกเค้าใหญ่ซึ่งไม่มีประสาทดมกลิ่นและจู่โจมเหยื่อส่วนหลังจากบนอากาศอย่างเงียบเฉียบ และหากสกังก์ปล่อยสารเคมีนี้แล้ว ต้องใช้เวลานานถึง 10 วัน ที่จะผลิตสารนี้ให้เต็ม ดังนั้นสกังก์จึงไม่ใช้วิธีนี้บ่อย ๆ หากไม่จำเป็นจริง ๆ

8 แมลงตด


bombardir beetle

   แมลงตด (Bombardier beetles) เป็นแมลงประเภท ด้วงดิน มันได้ชื่อนี้มาจากวิธีการป้องกันตัวของมัน คือการปล่อยสารพิษประเภทควิโนน ออกมาเป็นละอองเหมือนหมอกทางก้นของมัน และมีเสียงคล้ายตดอีกด้วย ซึ่งมันผลิตสารพิษจากสาร 2 ชนิดคือ ไฮโดรควิโนน (hydroquinone) และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogenperoxide) โดยแมลงตด จะมีช่องท้อง 2 ช่องที่เก็บสาร 2 ชนิดนี้ไว้ เมื่อมีภัยหรือถูกรบกวน มันจะเปิดช่องทั้ง 2 นี้ให้สารทั้ง 2 ชนิดมาผสมกันกับน้ำในช่องที่ 3 ที่มีเอนไซม์ (catalytic enzyme) ตัวหนึ่งอยู่ทำให้เกิดปฎิกิริยาทางเคมีและความร้อนส่งผลให้เกิดแก๊สและแรงดันในช่องท้อง พ่นละอองของสารพิษออกมาจากก้นมัน



9 พังพอนลาย 



striped polecat


  มักหากินในเวลากลางคืนโดยกินอาหารได้หลากหลาย ตั้งแต่ ผลไม้, ลูกไม้, แมลง, สัตว์ทั้งมีกระดูกสันหลังและไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กต่าง ๆ รวมถึง แมงมุม, แมงป่อง และงูหรือกิ้งก่าอีกด้วย อีกทั้งพังพอนเป็นสัตว์ที่มีความปราดเปรียวว่องไว สามารถพองขนให้ตัวมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เพื่อขู่ศัตรู และมีภูมิคุ้มกันพิษงูอยู่ในตัว จึงสามารถสู้กับงูพิษได้เป็นอย่างดี ด้วยการหลอกล่อให้งูเหนื่อย และฉวยโอกาสเข้ากัดที่ลำคอจนตาย แต่ถ้าหากถูกกัดเข้าอย่างจัง ก็ทำให้ถึงตายได้เช่นกัน

   พังพอนลายมีนิสัยก้าวร้าว พบได้ทั่วทวีปแอฟริกา เช่นเดียวกับสกั๊งค์ พวกมันจะมีต่อมผลิตของเหลวที่ไม่พึงประสงค์ ต่อมทางทวารหนัก แล้วกลิ้นที่มันปล่อยออกมานั้นกระจายได้หลายเมตรเลยที่ เมื่อถูกคุกคามพังพอนลายจะคำรามเป็นการเตือนนักล่าครั้งแรก หากนักล่าไม่ล้าถอยพังพอนลายจะฉีดสเปรย์ของเหลวกลิ่นเหม็นจากต่อมทวารหนักของพวกมันใส่นักล่าต่างๆ ที่เข้ามาหามัน

10 ตัวกินมด

 lesser anteater

   ตัวกินมด เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับสัตว์จำพวกอื่นในอันดับใหญ่ทั่วไป คือ เป็นสัตว์ที่มีส่วนจมูกและปากยาวเหมือนท่อ ไม่มีฟันในกราม จึงไม่สามารถที่จะเคี้ยวอาหารได้ แต่ใช้ลิ้นที่ยาวเรียวและมีน้ำลายที่เหนียวตวัดกินแมลงขนาดเล็กตามต้นไม้ หรือพื้นดินกินเป็นอาหาร โดยใช้จมูกที่ไวต่อความรู้สึกหาแมลงไปเรื่อยๆ เมื่อพบเจอแล้วจะใช้กรงเล็บตีนหน้าที่แหลมคมขุดคุ้ยหรือพังทลายรังของแมลงเหล่านี้ เช่นเดียวกับอาร์มาดิลโล ที่อยู่ในอันดับใหญ่เดียวกัน หรือลิ่น หรืออาร์ดวาร์ก ที่เคยมีบรรพบุรุษร่วมกันมาก่อนในยุคก่อนประวัติศาสตร์
   ตัวกินมดเป็นสัตว์ที่เหม็นมาก ในความเป็นจริงมันสามาสารถปล่อยกลิ่นไม่พึงประสงค์จากต่อมใต้หางของพวกมัน เพื่อป้องกันตัวมันจากการล่าของสัตว์อื่น


ที่มา themysteriousworld

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.

Top Post Ad