น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 460 ปอนด์ / 210 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 1,100 ปอนด์ / 500 กิโลกรัม
ตะโขง มีลำตัวขนาดปานกลาง ความยาวเต็มที่ประมาณ 2.80-3.0 เมตร ปากแหลมเรียวยาวมาก แต่ไม่มีก้อนเนื้อตอนปลายจมูกเหมือน ตะโขงอินเดีย มีแถบสีดำพาดขวางลำตัวและหาง พบกระจายพันธุ์อยู่ในคาบสมุทรมลายูและภูมิภาคอินโดจีน เช่น ไทย, มาเลเซีย, เวียดนาม, กาลิมันตัน, บอร์เนียว, สุมาตรา และพบถึงประเทศออสเตรเลียทางตอนเหนือ
9 จระเข้มักเกิล Mugger Crocodile
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 495 ปอนด์ / 225 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 1,500 ปอนด์ / 700 กิโลกรัม
จระเข้มักเกิล เป็นจระเข้ที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีขนาดความยาวประมาณ 4-5 เมตร ลำตัวมีลักษณะเป็นสีเทาเข้มหรือสีน้ำตาล มีพังผืดที่เท้า มันเป็นจระเข้ที่มีจมูกที่กว้างที่สุดในสกุล Crocodylus อาศัยอยู่ในทะเลสาบน้ำจืด หนองน้ำ บึงและแม่น้ำในแถบประเทศอินเดีย เนปาล บังคลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกาและอิหร่าน มันมีพฤติกรรมคล้ายกับจระเข้สายพันธุ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาบแดด ว่ายน้ำและดำน้ำ และมีพฤติกรรมที่สำคัญอีกอย่างก็คือการขุดโพรงที่ใช้ในการควบคุมความร้อนและความเย็น มันจะออกจากโพรงในเวลากลางคืนเพื่อหาของอาหาร
8 แอลลิเกเตอร์อเมริกา American Alligator
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 530 ปอนด์ / 240 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,200 ปอนด์ / 1,000 กิโลกรัม
แอลลิเกเตอร์อเมริกา มีฟันที่แหลมคมในปาก สามารถงอกใหม่ทดแทนกันได้ทันที ประมาณว่ามีทั้งหมดราว 1,000 ฟันตลอดทั้งชีวิต อายุขัยโดยเฉลี่ย 30-50 ปี ตัวผู้โตเต็มที่มีความยาว 3.4 เมตร (11 ฟุต) ขณะที่ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่า มีความยาวประมาณ 2.6 เมตร (8.5 ฟุต) บางครั้งตัวผู้ที่มีอายุมากอาจยาวได้มากกว่า 4 เมตร (13 ฟุต)
7 ตะโขงอินเดีย Gharial
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 550 ปอนด์ / 250 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,150 ปอนด์ / 977 กิโลกรัม
ตะโขงอินเดีย มีความยาวเต็มที่ได้ 6.5 เมตร นับเป็นจระเข้ชนิดที่ชอบอาศัยอยู่ในน้ำมากที่สุดในบรรดาสัตว์ในอันดับจระเข้ที่สุด เมื่อขึ้นมาบนบกจะอยู่ในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงในแหล่งน้ำที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและลึก หรือบริเวณลำห้วยที่ติดกับแม่น้ำ ชอบนอนพึ่งแดดโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ตัวผู้เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์จะมีตุ่มขึ้นมาที่ส่วนปลายทางของด้านบนปาก ซึ่งเรียกในภาษาฮินดีว่า "การ่า"ตุ่มนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดถึงประโยชนของตุ่มอันนี้ แต่สันนิษฐานว่าอาจเป็นสิ่งให้กำเนิดเสียงเพื่อการสื่อสารเพื่อหาคู่ ซึ่งได้ยินไปไกลถึง 1 กิโลเมตร เพราะอยู่ติดกับช่องเปิดจมูกและล้ำเกินมาช่องเปิดจมูก เนื่องจากตัวผู้ที่มีตุ่มก้อนใหญ่ที่สุดมักจะเป็นผู้นำฝูง หากินปลาในน้ำ วางไข่โดยขุดโพรงตามริมฝั่งแม่น้ำ
6 จระเข้อเมริกัน American Crocodile
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 739 ปอนด์ / 335 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,200 ปอนด์ / 1,000 กิโลกรัม
จระเข้อเมริกัน ถือเป็นสัตว์กำลังจะสูญพันธุ์ (endangered) ทั้งนี้ยกเว้นเฉพาะที่รัฐฟลอริด้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคใต้ของรัฐฟลอริด้าจะถูกระบุว่าเป็นสัตว์ที่ถูกคุกคาม (threatened) และได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายรัฐบาลกลาง รัฐฟลอริด้าเป็นรัฐเดียวที่มี American Crocodile อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สุด ร้อยละ ๙๕ ของแหล่งที่อยู่อาศัยของ American Crocodile ในรัฐฟลอริด้าได้รับการคุ้มครองและอนุรักษ์
5 เคแมนดำ Black Caiman
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 770 ปอนด์ / 350 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,400 ปอนด์ / 1,100 กิโลกรัม
เคแมนดำ เป็นจระเข้ขนาดใหญ่ มีขนาดความยาวประมาณ 5-6 เมตร เมื่อยังเล็กลำตัวจะมีสีเข้ม ขากรรไกรล่างมีแถบสีเทา สีข้างจะมีแถบสีเหลืองและขาวพาดอยู่ ลวดลายเหล่านั้นจะหายไปเมื่อมันโตขึ้น มีดวงตาขนาดใหญ่ จมูกแคบ และมีเกล็ดแข็งเหนือดวงตาไล่ลงมาถึงจมูก มีฟันประมาณ 72-76 ซี่ กินปลาทุกชนิด สัตว์น้ำต่างๆ สัตว์เลื้อยคลานนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยเป็นอาหาร ในบางครั้งอาจกินสัตว์เลี้ยงและมนุษย์อีกด้วย มักออกหากินในเวลากลางคืน มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ในประเทศโบลิเวีย บราซิล โคลอมเบีย เอกวาดอร์ เฟรนช์เกียนา กายอานา เปรูและเวเนซุเอลา โดยอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำจืดทั่วไป แม่น้ำที่ไหลช้าๆ ทะเลสาป หนอง บึง ชายเลนรวมถึงลุ่มน้ำอเมซอน
4 เต่ามะเฟือง Leatherback Sea Turtle
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 800 ปอนด์ / 364 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,050 ปอนด์ / 932 กิโลกรัม
เต่ามะเฟือง หรือ เต่าเหลี่ยม เป็นเต่าทะเล จัดเป็นเต่าชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในบรรดาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่จนถึงปัจจุบัน จึงเป็นเต่าเพียงชนิดเดียวในวงศ์ Dermochelyidae และสกุล Dermochelys เต่ามะเฟืองสามารถแยกออกจากเต่าประเภทอื่นได้โดยการสังเกตที่กระดองจะมีขนาดคล้ายผลมะเฟือง และครีบคู่หน้าไม่มีเล็บ ตั้งแต่ออกจากไข่ ความลึกที่เต่ามะเฟืองสามารถดำน้ำได้ถึง 1,280 เมตร
3 จระเข้โอริโนโค Orinoco Crocodile
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 840 ปอนด์ / 380 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,400 ปอนด์ / 1,100 กิโลกรัม
จระเข้โอริโนโค เป็นจระเข้สายพันธุ์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์และหายากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ มันเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ มีการพบตัวผู้มีขนาดความยาวถึง 6.6 เมตร โดยเฉลี่ยแล้วตัวผู้จะมีความยาวประมาณ 3.6-4.8 เมตร น้ำหนัก 380-635 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีความยาวประมาณ 3.0-3.3 เมตร น้ำหนัก 225-317 กิโลกรัม มันมีจมูกและปากค่อนข้างยาวคล้ายกับจระเข้อเมริกา ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน สีเหลืองและสีน้ำตาลเข้ม มันสามารถเปลี่ยนสีผิวได้ในช่วงระยะเวลานานๆ ล่าเหยื่อได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลื้อยคลาน นกและเลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยในแหล่งน้ำจืดในทวีปอเมริกาใต้ พบได้ในประเทศโคลัมเบียและเวเนซุเอลา โดยเฉพาะแม่น้ำโอริโนโค
2 จระเข้แม่น้ำไนล์ Nile crocodile
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 900 ปอนด์ / 410 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 2,400 ปอนด์ / 1,090 กิโลกรัม
จระเข้แม่น้ำไนล์ เป็นจระเข้ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองรองมาจากจระเข้น้ำเค็ม (C. porosus) ตัวผู้มีความยาวเฉลี่ย 3-5 เมตร แต่ตัวที่ยิ่งมีอายุมากจะยาวได้มากกว่านั้น ขณะที่ตัวเมียจะมีความยาวได้ตั้งแต่ 2.4-4 เมตร น้ำหนักตั้งแต่ 225-500 กิโลกรัม แต่ตัวผู้ที่ใหญ่อาจหนักได้ถึง 750 กิโลกรัม มีรายงานพบตัวที่ยาวที่สุดในแทนซาเนียมีความยาว 6.47 เมตร น้ำหนักประมาณ 1,090 กิโลกรัม จระเข้แม่น้ำไนล์ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปในแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำต่าง ๆ ที่เป็นน้ำจืดทั่วทวีปแอฟริกา แม้ว่าจะเป็นแหล่งน้ำที่ตื้นและมีโคลนขุ่นก็ตาม มีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมเป็นฝูงขนาดใหญ่ เป็นสัตว์ที่ล่าปลา รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่เป็นอาหาร เช่น ม้าลาย, กาเซลล์, แอนทิโลปต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สัตว์เหล่านี้อพยพข้ามแม่น้ำ จระเข้แม่น้ำไนล์จะมารอดักซุ่มและโจมตีโดยเฉพาะตัวที่เล็กและอ่อนแอกว่า หรือแม้แต่ซุ่มดักรอใต้น้ำจนกระทั่งสัตว์เหล่านี้มากินน้ำริมตลิ่ง ก็จะโผล่ตัวมางับลากลงไปกดเหยื่อให้จมน้ำตายก่อนแล้วค่อยกิน รวมถึงมีพฤติกรรมกินพวกเดียวกันเองด้วย
1 จระเข้น้ำเค็ม Saltwater Crocodile
น้ำหนักตัวเฉลี่ย : 990 ปอนด์ / 410 กิโลกรัม
น้ำหนักตัวสูงสุด : 4,400 ปอนด์ / 2,000 กิโลกรัม
จระเข้น้ำเค็ม เป็นจระเข้ 1 ใน 3 ชนิดที่พบได้ในประเทศไทย (อีก 2 ชนิด คือ จระเข้น้ำจืดและตะโขง) มีลักษณะทั่วไปคล้ายจระเข้น้ำจืด จุดที่แตกต่างกันคือ ขาคู่หลังมีลักษณะแข็งแรงกว่าขาคู่หน้าและมีเพียง 4 นิ้วมีพังผืดระหว่างนิ้วตีนมากกว่าจระเข้น้ำจืด จะงอยปากยาวและส่วนปลายค่อนข้างแหลม มีฟันประมาณ 60 ซี่ ลักษณะแตกต่างจากจระเข้น้ำจืดคือไม่มีเกล็ด 4 เกล็ดที่ท้ายทอย ปากยาวกว่าจระเข้น้ำจืดอย่างเห็นได้ชัด มีสันเล็ก ๆ ยื่นจากลูกตาไปตามความยาวของส่วนหัวจนถึงตำแหน่งของปุ่มจมูก หรือที่เรียกว่าก้อนขี้หมา สีลำตัวออกเหลืองอ่อนหรือสีขาว และมีการเรียงตัวที่ส่วนหาง ดูคล้ายตาหมากรุก ตัวผู้มีความยาวหางยาวกว่าตัวเมีย แต่ลำตัวของตัวผู้ผอมเพรียวกว่าแต่โดยรวมแล้วขนาดลำตัวของตัวเมียจะเล็กกว่าเมื่อเทียบกันตัวต่อตัว และระยะห่างของโหนกหลังตาจะกว้างกว่าหัวของตัวผู้ดูป้อมสั้น ตัวเมียจะดูหัวยาวเรียว
ที่มา thetop10