หอดูดาวหลวงกรีนิช Royal Observatory ในกรุงลอนดอน แคว้นอังกฤษ มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์และการเดินเรือ และเป็นที่ทราบกันว่าเป็นตำแหน่งของเส้นเมริเดียนแรก ตั้งอยู่บนเขาแห่งหนึ่งในกรีนิชพาร์ก มองลงไปเห็นแม่น้ำเทมส์ หอดูดาวดังกล่าว พระเจ้าชาลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษทรงมอบหมายให้ก่อสร้างใน ค.ศ. 1675 โดยมีการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ในเวลานั้น พระมหากษัตริย์ยังได้ทรงสถาปนาตำแหน่งนักดาราศาสตร์หลวง (Astronomer Royal) ขึ้น เพื่อเป็นผู้อำนวยการหอดูดาวดังกล่าว อาคารดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จในฤดูร้อน ค.ศ. 1676อาคารดังกล่าวมักถูกเรียกชื่อว่า "เฟลมสตีดเฮาส์" (Flamsteed House)
งานด้านวิทยาศาสตร์ของหอดูดาวดังกล่าวถูกย้ายไปทำที่อื่นในหลายขั้นตอนในครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20 และที่หอดูดาวหลวงกรีนิชปัจจุบันรักษาไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เปิดบริการทุกวัน 10:00-17:00 ราคาบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่เป็น 22.50 ปอนด์, เด็กเป็น 11.50 ปอนด์ และสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เข้าชสมฟรี
9 พระราชวังบักกิงแฮม Buckingham Palace
พระราชวังบักกิงแฮม Buckingham Palace เดิมชื่อ คฤหาสน์บักกิงแฮม เป็นพระราชวังที่เป็นที่ประทับเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษ ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอนในสหราชอาณาจักรเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการเลี้ยงรับรองของรัฐและยังเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญที่หนึ่งของกรุงลอนดอน และยังเป็นที่รวมพลังใจทั้งในการฉลองและในยามคับขันของชาวอังกฤษ
พระราชวังบักกิงแฮมแต่เดิมชื่อ “คฤหาสน์บักกิงแฮม” (Buckingham House) สิ่งก่อสร้างเดิมเป็นคฤหาสน์ที่สร้างสำหรับจอห์น เชฟฟิลด์ ดยุคแห่งบักกิงแฮมในปี ค.ศ. 1703 ในปี ค.ศ. 1761 สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 3ทรงซื้อจากดยุคแห่งบักกิงแฮมเพื่อเป็นพระราชฐานส่วนพระองค์ ที่รู้จักกันในชื่อ “วังพระราชินี” (The Queen's House) ระยะ 75 ปีต่อมาเป็นเวลาที่มีการขยายต่อเติมพระราชวังโดยสถาปนิกจอห์น แนช (John Nash) และ เอ็ดเวิร์ด บลอร์ (Edward Blore) เป็นสามปีรอบลานกลาง
8 Natural History Museum
พิพิธภัณฑ์ Natural History Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามบนถนน Exhibition Road และอาจเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตลึงมากที่สุด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มุ่งเน้นในเรื่องของโลกของธรรมชาติ รวมถึงเป็นศูนย์วิจัยในเรื่องต่างๆราว 70 ล้านสาขา ซึ่งรวมถึงด้านพันธุ์พืช Entomology, Mineralogy, Palaeontology และสัตว์วิทยา
7 หอคอยแห่งลอนดอน Tower of London
เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนในอังกฤษ เป็นพระราชวังที่เดิมสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ พระราชวังเป็นรู้จักกันในนามว่า “หอคอยแห่งลอนดอน” หรือ “หอ” ในประวัติศาสตร์ ตัวปราสาทตั้งอยู่ภายในโบโรแห่งทาวเวอร์แฮมเล็ทส์และแยกจากด้านตะวันออกของนครหลวงลอนดอน (City of London) ด้วยลานโล่งที่เรียกว่าเนินหอคอยแห่งลอนดอน หรือ “ทาวเวอร์ฮิล” (Tower Hill)
หอคอยแห่งลอนดอนมักจะรู้จักกันในการเกี่ยวข้องกับหอขาว (White Tower) ซึ่งแต่เดิมเป็นหอสีขาวที่สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษในปี ค.ศ. 1078 แต่กลุ่มสิ่งก่อสร้างทั้งหมดของหอคอยแห่งลอนดอนตั้งอยู่รอบวงแหวนสองวงภายในกำแพงและคูป้องกันปราสาท
ตัวหอคอยใช้เป็นป้อม พระราชวังของพระมหากษัตริย์ และที่จำขังโดยเฉพาะสำหรับนักโทษที่มียศศักดิ์สูงเช่นพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1ก็เคยทรงถูกจำขังในหอคอยโดยพระราชินีนาถแมรี และยังเป็นที่สำหรับประหารชีวิตและทรมาน คลังเก็บอาวุธ ท้องพระคลัง สวนสัตว์ โรงกษาปณ์หลวง หอเก็บเอกสาร หอดูดาว และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1303 เป็นที่เก็บรักษามงกุฏและเครื่องราชาภิเษกของสหราชอาณาจักร
6 หอศิลป์แห่งชาติ National Gallery
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนในอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1824 เป็นที่แสดงและเก็บรักษาจิตรกรรมกว่า 2,300 ภาพจากตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงปี ค.ศ. 1900 หอศิลป์แห่งชาติเริ่มก่อตั้งเมื่อรัฐบาลซี้อภาพเขียน 36 ภาพจากนายธนาคาร จอห์น จูเลียส แองเกอร์สไตน์ (John Julius Angerstein) ในปี ค.ศ. 1824 หลังจากนั้นลักษณะการสะสมก็ขึ้นอยู่กับผู้อำนวยการของหอศิลป์ โดยเฉพาะชาลส์ ล็อก อีสต์เลค (Charles Lock Eastlake) และโดยการอุทิศเงินส่วนบุคคลซึ่งเป็นจำนวนประมาณสองในสามของภาพในหอศิลป์ ฉะนั้นจำนวนภาพจึงไม่มากนักเมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรปแต่สมบูรณ์แบบในด้านเนื้อหา และเคยได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ในจำนวนไม่กี่พิพิธภัณฑ์ที่เป็นแสดงภาพเขียนอย่างถาวร แต่ในปัจจุบันข้ออ้างนี้ไม่เป็นความจริงแล้ว
5 พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซต์
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซต์ Madame Tussauds เดิมใช้ชื่อว่า "Madame Tussaud's" แต่ในปัจจุบันได้ยกเลิกการใช้เครื่องหมายอะพอสทรอฟีในชื่อไปแล้ว เป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ก่อตั้งโดยนางมารี ทุซโซต์ (1 ธันวาคม ค.ศ. 1761 – 16 เมษายน ค.ศ. 1850) ช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้งชาวฝรั่งเศส มีสาขาแรกตั้งอยู่ที่ถนนเบเกอร์ กรุงลอนดอน ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1835ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุซโซต์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของลอนดอน และมีการขยายสาขาออกไปในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ดำเนินงานโดยบริษัท เมอร์ลิน เอนเตอร์เทนเมนต์ สัญชาติอังกฤษ
4 ไฮด์ปาร์ค Hyde Park
ไฮด์ปาร์ค เป็นชื่อสวนสาธารณะ แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงทางด้านการชุมนุมทางด้านการเมือง และการพูดแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีต่อสาธารณชน สำหรับเมืองไทย การไฮด์ปาร์คมีขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2497 ณ ท้องสนามหลวง เป็นการอภิปรายปัญหาแบบเรียนเบสิคของหลวงพรหมโยธี จากนั้นมาทุกเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ก็จะมีการวิจารณ์ทางการเมือง อภิปรายความผิดพลาดของรัฐบาล ไฮด์ปาร์คเฟื่องฟูอยู่ได้ไม่นานก็ถูกทางการห้ามเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2499 แต่ต่อมาก็อนุญาตให้ไฮด์ปาร์คได้อีกจนปัจจุบัน คำคำนี้ปรากฏในดิกชันนารีด้วย คุณประณีตลองกลับไปเปิดดูอีกทีสิ “ ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ 108 ซองคำถาม สำนักพิมพ์สารคดี ”
3 Lord’s, London
Lord’s, London สนามคริกเกตสนามหลักของอังกฤษ มีความจุ 30,000 ที่นั่ง และเปิดใช้งานมาแล้วตั้งแต่ปี 1814 ทำให้สนามคริกเกตแห่งนี้เปี่ยมมนต์ขลังสไตล์อังกฤษแท้ๆ จนได้ชื่อว่าเป็น “บ้านของคริกเก็ต” และในปัจจุบันได้มีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมเข้าไปให้สนามลอร์ดส์แห่งนี้มีความทันสมัยมากขึ้นทำให้มันยิ่งโด่งดังในฐานะสถานที่ที่ผู้ไปเยือนอังกฤษหลายคนอยากไปสัมผัสมันสักครั้ง
2 น็อตติ้ง ฮิลล์ ( Notting Hill )
น็อตติ้ง ฮิลล์มีชื่อเสียงและมีผู้คนเข้าไปมากขึ้นจึงกลายเป็นศูนย์รวมแห่งการพบปะสังสรรค์ซึ่งมีทั้งคลับ บาร์และร้านสำหรับเต้นรำมากมาย ชาวแคริบเบียนที่อาศัยอยู่ที่นั่นนับว่ามีส่วนในการเกิดขบวนแห่น็อตติ้ง ฮิลล์ คาร์นิวอลซึ่งจะจัดให้มีขึ้นทุกปี หน้าร้อนนี้ งานเทศกาลและขบวนพาเหรดศิลปะจากหลากวัฒนธรรมจะเกิดขึ้น ซึ่งงานดังกล่าวมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมมากมาย เครื่องแต่งกายที่แนะนำสำหรับผู้เข้าชมคือเสื้อผ้าแบบแปลกใหม่
1 ลอนดอนอาย London Eye
ลอนดอนอาย London Eye หรือยังรู้จักในชื่อ มิลเลเนียมวีล Millennium Wheel เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป มีความสูง 135 เมตร (443 ฟุต) และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมากในสหราชอาณาจักร มีผู้มาเยือนมากกว่า 3 ล้านคนต่อปี ส่วนบัตรเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 15 ปอนด์ต่อคน ซึ่งในอดีตเคยเป็นชิงช้าสวรรค์ก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ก่อนจะถูกชิงตำแหน่งไปจากชิงช้าสวรรค์ เดอะ สตาร์ ออฟ นานชาง ในประเทศจีน (160 เมตร) ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 ต่อมาภายหลังตำแหน่งตกเป็นของ สิงคโปร์ ฟลายเออร์ ในประเทศสิงคโปร์ (165 เมตร) ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 อย่างไรก็ตาม ลอนดอน อาย ก็ยังคงได้รับตำแหน่งจากการให้บริการว่า "ชิงช้าสวรรค์ที่ก่อสร้างด้วยโครงเหล็กค้ำข้างเดียวที่สูงที่สุดในโลก" (เพราะการโครงสร้างทั้งหมดใช้โครงค้ำเหล็กรูปตัว A ในการให้บริการโดยใช้โครงค้ำเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้นไม่เหมือนชิงช้าสวรรค์อื่นๆ ทั่วไป ที่มีโครงค้ำสองข้าง)
ที่มา wonderslist