Type Here to Get Search Results !

10 อันดับ งูที่อันตรายที่สุดในโลก

Top Post Ad

  10 งูกะปะ The Rattlesnake


   งูกะปะ  Malayan pit viper เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Calloselasma rhodostoma จัดเป็นงูเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Calloselasma โดยไม่มีชนิดย่อย
   ลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่ จะงอยปากงอนขึ้นข้างบน หากินเวลาพลบค่ำและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลาที่มีความชื้นในอากาศสูง เช่น หลังฝนตก ชอบอาศัยในดินปนทรายที่มีใบไม้หรือเศษซากไม้ทับถมกันเพื่อซ่อนตัว เป็นงูที่ไม่ปราดเปรียว เวลาตกใจจะงอตัวหรือขดนิ่ง แต่ฉกกัดรวดเร็วมาก กินอาหารได้แก่ สัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนู, นก หรือสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก มีความยาวเต็มที่ประมาณ 1 เมตร ออกไข่ครั้งละ 10-20 ฟอง ในตัวที่มีสีคล้ำเรียกว่า "งูปะบุก"


9 งูเดธ เเอดเดอร์ Death Adder



    สำหรับงูตัวนี้เป็นงูที่มีมากในออสเตรเลียและนิวกินี มีลักษณะตัวที่สั้นป้อมขนาดเล็กภายในลำตัวมีเกล็ด ส่วนหัวมีรูปร่างที่เป็นสามเหลี่ยม มีความไวที่มากเทียบได้กับงูไวเปอร์เลยทีเดียว ทั้งนี้ยังเป็นงูนักล่า กล่าวคือ เป็นงูล่างู ความน่ากลัวของมันอยู่ที่การกัด เพราะในการกัดแต่ละครั้งมันจะปล่อยพิษออกมาได้มากถึง 40-100 มิลลิกรัม และหนึ่งในนั้นมีพิษที่ร้ายแรงมากถึง 0.4-0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมกันเลยทีเดียว และงูตัวนี้เป็นงูที่น่ากลัวมากเป็นที่เรื่องลือในเรื่องของพิษเนื่องจากว่ามีพิษที่ร้ายแรงทำลายระบบประสาท ซึ่งทำให้เหยื่อที่โดนพิษร้ายนี้ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ นั้นอาจจะทำให้เหยื่อตายได้ภายใน 6 ชั่วโมง แต่ถ้าได้รับการรักษาก็อาจจะรอดได้ค่ะ แต่ถ้าเกินนั้นพิษจะทำให้ระบบการหายใจล้มเหลวได้ นอกจากนั้นแล้วงูนี้ยังเป็นงูที่มีความเร็วที่มากถึง 0.13 วินาที เพราะมันใช้เวลาในการฉกที่เร็วถึง 0.13 วินาทีในครั้งที่สอง ว่ากันว่าเป็นงูที่เร็วที่สุดในโลก



8 งูแมวเซา Vipers


   เป็นงูที่มีรูปร่างอ้วนป้อม ลำตัวสั้น หางสั้น เวลาตกใจหรือถูกรบกวนมักขดตัวเตรียมสู้และระวังตัว พร้อมทั้งทำเสียงขู่คล้ายแมวหรือเสียงของยางรถยนต์รั่ว โดยการสูบลมเข้าไปในตัวจนตัวพอง แล้วพ่นลมออกมาทางรูจมูกแรง ๆ แทนที่จะเลื้อยหนี เป็นงูที่ฉกกัดได้รวดเร็วแทบไม่ทันตั้งตัวทั้ง ๆ ที่ขดตัวอยู่ในลักษณะปกติ เป็นงูที่ออกลูกเป็นตัว ครั้งละประมาณ 20-30 ตัว (สูงสุด 63 ตัว) โดยจะผสมพันธุ์ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม และไปออกลูกช่วงฤดูร้อน ลูกงูแรกเกิดมีน้ำหนัก 7.2– 14.4 กรัม และความยาวโดยเฉลี่ย 24-30 เซนติเมตร อาการของผู้ที่ถูกกัดจะแสดงออกดังนี้ คือ มีอาการปวดและมีอาการบวมมาก อาการบวมเกิดเกิดขึ้นได้ภายใน 2-3 นาทีภายหลังถูกกัด มักจะมีรอยเขี้ยว 2 จุดซึ่งมีเลือดไหลออกตลอดเวลา และบริเวณรอบแผลจะมีสีคล้ำบริเวณโดยรอบเขี้ยวจะบวมอย่างชัดเจนภายใน 15-20 นาที และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งบริเวณที่ถูกกัดบวมหมดภายในเวลา 12-24 ชั่วโมง และอาจเริ่มพองและมีเลือดออก ผู้ที่ได้รับพิษมากจะมีอาการของเลือดออกง่ายภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง เช่น เลือดออกเป็นจ้ำ ๆ บริเวณผิวหนัง เลือดออกตามไรฟัน ไอมีเสมหะปนเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด เลือดออกจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งความดันโลหิตต่ำ ไตวายและเสียชีวิตลงในที่สุด



7 งูเห่าฟิลิปปินส์ The Philippine Cobra


   งูเห่าฟิลิปปินส์ มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในบรรดางูเห่าด้วยกัน พบเห็นได้ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ด้วยพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทนี้จะส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ การทำงานของระบบทางเดินหายใจ และเป็นพิษต่อระบบประสาท เหยื่อที่ถูกงูเห่าฟิลิปปินส์กัดอาจประสบภาวะระบบหายใจเป็นอัมพาต และเสียชีวิตได้ภายใน 30 นาที 

6 งูเสือ The Tiger Snake


   งูเสือ เป็นงูพิษที่มักจะพบได้ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย รวมถึงหมู่เกาะชายฝั่งทะเล แม้ว่าสีสันของงูเสือค่อนข้างจะสวยงาม แต่พิษของมันนั้นคงทำให้เราอยากจะรีบถอยห่างออกไปไกล ๆ เพราะพิษของงูเสือสามารถทำให้ผู้ที่ถูกกัดเสียชีวิตได้ภายใน 30 นาที แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน 6-25 ชั่วโมงก็ตาม ความรุนแรงของพิษงูทำให้ก่อนมีการพัฒนาเซรุ่ม เหยื่อที่ถูกงูเสือกัดมีอัตราเสียชีวิตอยู่ถึง 60-70% 

5 งูแบล็คแมมบา The Black Mamba


   งูแบล็กแมมบา เป็นชื่อของอสรพิษซึ่งเป็นที่หวาดกลัวมากที่สุดในแอฟริกา งูแบล็กแมมบามีลำตัวยาวเฉลี่ย 2.5-3.2 เมตร และบางครั้งอาจเติบโตได้ถึง 4.45-4.32 เมตร มันเป็นงูที่เลื้อยได้เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็ว 4.32-5.4 เมตรต่อวินาที ความน่าหวาดหวั่นของมันนอกจากพิษที่ร้ายแรงติดอันดับโลกแล้ว ยังเป็นเพราะงูแบล็กแมมบามีการโจมตีได้มากถึง 12 ครั้ง พิษของมันจากการกัดเพียงแค่ครั้งเดียวสามารถดับลมหายใจของผู้ใหญ่ได้ ด้วยพิษที่ส่งผลต่อระบบประสาทที่ออกฤทธิ์เร็วมาก ในการกัดแต่ละครั้งอาจปล่อยพิษออกมาถึง 100-120 มิลลิกรัมโดยเฉลี่ย หรืออาจมากถึง 400 มิลลิกรัม มันเป็นงูที่เร็วที่สุดในโลกที่สามารถเข้าถึงด้วยความเร็วมากกว่า 20 กม. / ชั่วโมง



4 งูไทปัน The Taipan



    งูไทปัน สามารถพบได้ในออสเตรเลีย พิษของมันรุนแรงพอจะสังหารหนูตะเภาได้ถึง 12,000 ตัว โดยพิษจะเข้าไปบล็อกหลอดเลือดแดงหรือเส้นเลือดของเหยื่อ ทั้งนี้ มีรายงานว่าก่อนที่จะมีการผลิตเซรุ่มแก้พิษงูชนิดนี้ ไม่มีเหยื่อรายใดที่ถูกงูไทปันกัดแล้วมีชีวิตรอดได้ โดยผู้ที่ถูกกัดสามารถเสียชีวิตได้ภายใน 1 ชั่วโมง ไทปันมีพิษร้ายแรงใช้ในการฆ่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของมัน 100% 

งูทับสมิงคลา (Blue Krait)


   
          งูทับสมิงคลาหรืองูมาลายัน (Malayan) เป็นสายพันธุ์สังหารที่พบได้ทั่วไปในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ที่ถูกงูทับสมิงคลากัดมีโอกาสเสียชีวิตได้ 50% แม้จะได้รับเซรุ่มแก้พิษแล้วก็ตาม งูทับสมิงคลาเป็นงูล่างู กินงูชนิดอื่นเป็นอาหาร โดยมักจะออกหากินในเวลากลางคืน และจะดุร้ายมากขึ้นเมื่ออยู่ในที่มืด อย่างไรก็ตาม งูทับสมิงคลาค่อนข้างขี้อาย และพยายามหลบซ่อนตัวเองมากกว่าออกมาจู่โจมเหยื่อ พิษของงูทับสมิงคลาเป็นชนิด Neurotoxin ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาท และมีความร้ายแรงกว่าพิษของงูเห่าถึง 16 เท่า 

งูสีน้ำตาลตะวันออก Eastern Brown Snake


   งูสีน้ำตาลตะวันออก 1 ในงูพิษร้ายแรงติดอันดับโลก สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไว ปราดเปรียว มีนิสัยดุร้าย และมักจะชอบไล่ตามเหยื่อและมีการโจมตีครั้งแล้วครั้งแล่า แม้แต่งูสีน้ำตาลตะวันออกที่มีอายุน้อยก็สามารถฆ่าคนได้ พิษของมันมีผลทั้งต่อระบบประสาท และมีผลต่อการแข็งตัวของโลหิต พบได้มากในย่านที่อยู่อาศัยของออสเตรเลีย 

1 งูไทปันโพ้นทะเล The Inland Taipan aka ‘the Fierce Snake’


    งูไทปันโพ้นทะเล มีถิ่นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย ลำตัวมีสีแทนดำ โดยงูไทปันโพ้นทะเลนี้ได้ถูกจัดให้เป็นเพชฌฆาตที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดในบรรดางูที่อยู่บนบก โดยพิษที่ปล่อยออกมาจากการกัดเพียงแค่ 1 ครั้ง มีปริมาณอยู่ที่ 110 มิลลิกรัม ซึ่งมากพอจะคร่าชีวิตมนุษย์ได้ถึง 100 คน หรือประชากรหนูถึง 250,000 ตัวเลยทีเดียว

ที่มา www.peimag.com


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.