อันดับที่ 10 แอกโซลอเติล
แอกโซลอเติลหรือ อาโชโลตล์ เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในอันดับซาลาแมนเดอร์ชนิดหนึ่ง มีลักษณะใกล้เคียงกับซาลาแมนเดอร์เสือ (A. tigrinum) ซึ่งอยู่ในวงศ์และสกุลเดียวกัน โดยที่ชื่อ "แอกโซลอเติล" นั้น มาจากชื่อของเทพเจ้าโชโลตล์ (Xolotl) ซึ่งเป็นพระเจ้าแห่งความตายตามความเชื่อของชาวแอซเท็ก
อันดับที่ 9 กิ้งก่าบาซิลิสก์ หรือ กิ้งก่าพระเยซู
กิ้งก่าบาซิลิสก์ โดยรวมจะมีเกล็ดสีเขียว, ขาว และดำ มีครีบบนหลังขนาดใหญ่เหมือนปลา สำหรับตัวผู้จะมีหงอนขนาดใหญ่แลดูเด่นด้วย มีความยาวเฉลี่ยประมาณ 70-75 มิลลิเมตร (2.8–3.0 นิ้ว) และมีน้ำหนักประมาณ 80 กรัม (3.2 ออนซ์) และยาวได้เต็มที่ถึง 80 เซนติเมตร กิ้งก่าบาซิลิสก์ จะอาศัยและหากินบนพื้นดินใกล้ริมน้ำ จะขึ้นต้นไม้เพื่อหลบเลี่ยงศัตรู และมีความสามารถพิเศษคือ มีความว่องไวมากจนสามารถวิ่งได้บนผิวน้ำ โดยใช้ขาคู่หลัง โดยจังหวะเปลี่ยนก้าวของกิ้งก่าบาซิลิสก์ใช้เวลาเพียงแค่ 0.052 วินาที ซึ่งการเคลื่อนที่อันรวดเร็วนี้ อุ้งเท้าของกิ้งก่าบาซิลิสก์จะสร้างฟองอากาศลงไปในน้ำด้วย จากการวิเคราะห์จากภาพถ่ายสรุปได้ว่ามีพลังงาน 3 อย่างที่ช่วยพยุงตัวไม่ให้กิ้งก่าบาซิลลิสก์จมน้ำ คือ แรงบาซิลิสก์ ซึ่งเกิดจากเท้ากระทุ้งผิวน้ำทำให้เกิดแรงพยุงตัว แรงต้านทานและแรงลอยตัวจากอากาศที่ช่วยพยุงตัวไว้ไม่ให้จม โดยจะจุ่มเท้าอีกข้างก่อนที่แรงจะหมด คิดคำนวณแล้ว พบว่ากิ้งก่าบาซิลิสก์สามารถเคลื่อนที่บนผิวน้ำได้ถึง 5 ก้าว ภายในเวลาเพียง 0.25 วินาที อันเป็นความเร็วที่แม้แต่กล้องความเร็วสูงก็ไม่อาจจับภาพได้ทัน หากเปรียบเป็นมนุษย์ ที่มีน้ำหนัก 80 กิโลกรัมต้องไปวิ่งบนผิวน้ำด้วยความเร็ว 106 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อันดับที่ 8 หนูน้ำคาปีบารา
เป็นสัตว์ในตระกูลฟันแทะจำพวกเดียวกับหนู หน้าตาคล้ายหนูยักษ์ไม่มีหาง เมื่อโตเต็มที่มีความสูงจากพื้นถึงไหล่ประมาณ 2.5 ฟุต น้ำหนัก 50 กิโลกรัม มีขนยาวหยาบหนา สีเทาหรือแดงอมน้ำตาล นิ้วเท้ามีพังพืด และมีกีบคล้ายเล็บ ตัวผู้จะมีต่อกลิ่นใกล้ ๆ กับจมูก พบได้ทั่วไปในทวีปเมริกาใต้ ตั้งแต่เทือกเขาแอนดีสตะวันออก จากปานามาผ่านป่าอเมซอนจนถึงภาคเหนือของอาเจนตินา
อันดับที่ 7 กบไร้ปอดแห่งบอเนียว
กบชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Barbourula kalimantanensis นับเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดที่สามที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบ ทีมงานสันนิษฐานว่า ปอดที่เต็มไปด้วยถุงลมอาจจะทำให้เหล่าบรรพบุรุษของกบบอเนียวนั้นดำน้ำเพื่อหลบซ่อนตัวได้ยาก เนื่องจากน้ำที่ไหลเชี่ยว มันจึงวิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอดโดยตัดปอด ซึ่งไม่จำเป็นออกไป
อันดับที่ 6 ลิงจมูกยาว
ลิงจมูกยาว เป็นลิงจำพวกค่าง มีรูปร่างอ้วนลงพุง ขนตามลำตัวสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเด่นคือ มีจมูกที่ยาวเหมือนงวงช้างห้อยเลยมาจนปิดปากตัวเอง ซึ่งมีเฉพาะในตัวผู้ในวัยที่โตเต็มที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบว่ามีไว้เพื่ออะไร นอกเหนือจากการหายใจ ในขณะที่ตัวเมียและลิงตัวผู้วัยอ่อน จะไม่มีจมูกลักษณะดังกล่าวนี้ โดยจมูกของตัวผู้จะโตตามขนาดของร่างกาย เป็นลิงที่พบเฉพาะเกาะบอร์เนียว อาศัยอยู่ในป่าชายเลนหรือป่าติดริมแม่น้ำ เช่น อุทยานแห่งชาติทันจุงปูติง, อุทยานแห่งชาติบาโก และคินาบาตางัน ในรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ตลอดจนประเทศใกล้เคียง เช่น บรูไน และรัฐกาลิมันตัน ในอินโดนีเซีย ปัจจุบัน เหลือประมาณ 8,000 ตัว
อันดับที่ 5 นกเงือกหัวแรด
เป็นนกเงือกที่มีขนาดใหญ่ มีความยาวลำตัวประมาณ 120 เซนติเมตร ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยตัวเมียมีขนาดลำตัวเล็กกว่าตัวผู้เล็กน้อย มีโหนกบริเวณหูและตาซีดกว่าตัวผู้ นอกนั้นมีความคล้ายคลึงกันมาก ขนบนปีกและตัวสีดำ ท้องและหางมีสีขาวและมีแถบสีดำพาดตามขวางตรงใกล้ปลายหาง คล้ายกับนกกาฮัง โหนกบริเวณเหนือปากเป็นรูปโค้งขึ้นทางด้านบน ตรงโคนโหนกมีสีแดงบริเวณตอนหน้าของส่วนที่โค้งขึ้นทางด้านบนคล้ายนอก อันเป็นที่มาของชื่อสามัญทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พบในมาเลเซีย ส่วนในประเทศไทยพบเฉพาะทางภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป อาหารได้แก่ งู จิ้งเหลน กิ้งก่า ผลไม้ ลูกไม้ สัตว์เล็กๆ
อันดับที่ 4 อาย อาย
จากการศึกษาทางดีเอ็นเอพบว่า อาย-อาย เป็นลีเมอร์ที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์ที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง เพราะมีระยะเวลาในการดำรงเผ่าพันธุ์มายาวนาน ถือเป็นต้นพันธุกรรมของลีเมอร์ที่หลากหลายในปัจจุบัน อาย-อาย เป็นลีเมอร์ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากลีเมอร์ทั่วไป คือ มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนปีศาจ มีใบหูที่กางโตเหมือนค้างคาว มีฟันที่แหลมคม โดยเฉพาะฟันหน้าที่จะไม่หยุดการงอกเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ และมีนิ้วตีนที่ลีบเล็กเรียวยาวผอมติดกระดูก ทำหน้าที่เหมือนมือ และมีจุดเด่น คือ นิ้วตรงกลาง 2 นิ้ว คือ นิ้วชี้ และนิ้วกลางจะแหลมยาวออกมาจากนิ้วอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน โดยมีนิ้วชี้เป็นนิ้วที่ยาวที่สุด อาย-อาย มีลำตัวขนาดเท่าแมว มีขนตามลำตัวสีดำปลายขนเป็นสีเงินหรือสีเทา มีหางยาวขนฟูเป็นพวงเหมือนกระรอก น้ำหนักตัวประมาณ 15 กิโลกรัม จากการที่อาย-อาย มีฟันหน้าเหมือนสัตว์ฟันแทะ ทำให้ในระยะแรกในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1770 เดอเบนทันได้จัดให้อาย-อาย อยู่ในอันดับสัตว์ฟันแทะด้วยซ้ำ
อันดับที่ 3 ตุ๊กแกหางใบไม้ซาตานิค
ตุ๊กแกหางใบไม้ซาตานิค พบกระจายพันธุ์เฉพาะบนเกาะมาดากัสการ์เท่านั้น เป็นตุ๊กแกที่มีลักษณะพิเศษ คือ สามารถพรางตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างดีเยี่ยม มีร่างกายที่บิดงอ ผิวหนังที่มีเส้นเลือดโปดปูน และส่วนหางที่แบนราบแลดูคล้ายใบไม้แห้งอย่างมาก ทำให้สามารถพรางตัวเป็นใบไม้แห้งได้อย่างแนบเนียน ผิวหนังมีหลายสีด้วยกัน เช่น สีเขียวมะกอก หรือสีน้ำตาลมีจุดดำกระจายอยู่ตามตัว ขนาดโตเต็มที่มีความยาวประมาณ 10-13 นิ้ว มีดวงตากลมใหญ่ไร้เปลือกตา โดยจะมีเพียงเยื่อใส ๆ ห่อหุ้มป้องกันดวงตาเท่านั้น ดวงตาสีน้ำตาลอมชมพู มีจุดสีแดงตรงกลาง
อันดับที่ 2 โอคาพี
โอคาพีมีความสูงเพียงประมาณ 1.5-2 เมตร บริเวณขาทั้ง 4 ข้างและบั้นท้ายจะมีแถบดำคล้ายกับม้าลาย ส่วนบริเวณคอนั้นจะเห็นเป็นแถบไม่ชัดนัก อีกทั้งยังมีนัยน์ตาคล้ายคลึงกับกวางหรือแอนทีโลป โอคาพีตัวผู้นั้นจะมีเขา 2 เขา โดยหากมองจากด้านข้างแล้วจะทำให้ดูราวกับว่ามีเพียงเขาเดียว ซึ่งในอดีตมีผู้เคยเข้าใจว่าโอคาพี คือ ยูนิคอร์น สัตว์ในเทพปกรณัมกรีกด้วยซ้ำ
อันดับที่ 1 กบแก้ว
กบแก้ว อาศัยอยู่ในถิ่นแถบอเมริกาใต้ มีด้วยกันอยู่หลายชนิด ก็ตามชื่อมันนั่นแหละครับ ที่ได้ชื่อว่ากบแก้ว ก็มาจากร่างกายที่โปร่งใสจนสามารถมองทะลุไปเห็นตับไตไส้พุงของมันนั่นเอง เจ้ากบตัวนี้มีขนาดลำตัวประมาณ 3 – 8 เซนติเมตร ตัวเล็กจ้อยเลยว่างั้น ลำตัวออกสีเขียวแก่ไปจนถึงเขียวอ่อน แต่ก็ใสจนสามารถมองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจน อาหารของมันก็ได้แก่สัตว์หรือแมลงที่ตัวเล็กกว่า แม้กระทั่งกบเล็กหรือลูกมันเอง
ที่มา http://www.peimag.com/