Type Here to Get Search Results !

10 ผลไม้กินผล (ตอนที่ 2)

Top Post Ad

11.จาก

     จาก Nypa, Nypa palm เป็นพืชจำพวกปาล์ม โดยมีการจัดอยู่ที่ในวงศ์ย่อยNypoideae ซึ่งมีสกุลเดียว และเป็นปาล์มเพียงชนิดเดียวที่เป็นพืชในป่าชายเลน และมีลำต้นอยู่ใต้ดิน นับเป็นพืชเก่าแก่มากชนิดหนึ่ง ที่มีซากดึกดำบรรพ์อายุถึง 70 ล้านปี จากพบได้ทั่วไปในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในบริเวณน้ำจืด และน้ำกร่อย ที่มีน้ำเค็มขึ้นถึง มักจะขึ้นเป็นดงขนาดใหญ่ เรียกว่า ป่าจาก หรือดงจาก จากสามารถเติบโตได้ดีในดินโคลน ตามป่าชายเลน หรือบริเวณริมคลองที่มีไม้ให้ร่มเงาปะปนอยู่ด้วย มักอยู่ในช่วงที่มีน้ำจืดและน้ำกร่อยปนกัน แต่บนบกที่น้ำท่วมถึงก็พบจากได้บ้างเช่นกัน หากดินไม่แห้งแล้งนานจนเกินไป



การใช้ประโยชน์
         จากเป็นพืชที่คนไทยรู้จักมานาน และใช้ประโยชน์ของจากได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ใบจนถึงผล ใบจากมีลักษณะคล้ายใบมะพร้าว แต่มีความเหนียว และกว้างกว่า ทำให้สามารถใช้นำมาเย็บเป็นตับ เรียกว่า "ตับจาก" แล้วนำไปมุงหลังคา กันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะใช้งานไปนาน ใบจากกรอบ เปลี่ยนจากสีเขียวเข้ม เป็นสีเหลือง สีน้ำตาล กระทั่งเกือบเป็นสีดำ แต่ก็ยังคงกันฝนและแดดได้ จนกว่าจะแห้งกรอบและผุไป ใช้ทำหมวกที่เรียก "เปี้ยว" พอนจากใช้ทำเชื้อเพลิง ใบจากอ่อนตากแห้งใช้มวนยาสูบ ห่อขนมต้ม ทำที่ตักน้ำเรียก "หมาจาก" ตอกบิด เสวียนหม้อ ใช้ห่อขนมจาก ซึ่งเป็นขนมที่ทำจากแป้ง น้ำตาล และมะพร้าว ผสมกันจนเหลวได้ที่ แล้วนำห่อด้วยใบจาก ปิ้งบนไฟ จนมีกลิ่นหอม แม้อาจมีการใช้ใบมะพร้าวมาห่อ แต่ก็ไม่อร่อยเท่าใช้ใบจาก ใบจากใช้ต้มน้ำดื่มแก้อาการท้องร่วงได้ ในหมู่เกาะโรตีและซาวูใช้ใบจากเป็นอาหารหมูเพื่อให้เนื้อหมูมีรสหวาน
ช่อดอกนำมาทำแกงหรือกินกับน้ำพริก ก้านช่อดอกปาดเอาน้ำหวานมาทำเป็นน้ำตาลได้ เรียก "โซม"หรือนำไปหมักเป็นเหล้าและน้ำส้มสายชู กลีบดอกนั้นนำไปเป็นส่วนผสมของชาสมุนไพรได้ผลจากที่สุกแล้ว จะมีเนื้อในเมล็ดเป็นเยื่อสีขาว ใส นุ่ม มีรสหวาน นิยมรับประทานเป็นของหวาน เรียกลูกจาก ผลอ่อนที่แตกหน่อ จะมีจาวอยู่ข้างใน นำมารับประทานได้เช่นเดียวกับจาวตาล หรือจาวมะพร้าว

 

12.จำปาดะ

  จำปาดะ cempedak, เจิมเปอดะก์ชื่อวิทยาศาสตร์: Artocarpus integer) คือชื่อของไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ Moraceae ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกับขนุน ถิ่นกำเนิดอยู่ในคาบสมุทรมลายู อินโดนีเซีย และเกาะนิวกินี ลักษณะเป็นไม้ยืนต้น มียางสีขาวขุ่น ใบเป็นมัน ผลคล้ายขนุนแต่เล็กกว่า ผลดิบเปลือกแข็ง มียางมาก พอสุก เปลือกนิ่มลง ยางน้อยลง เนื้อมีกลิ่นหอมและรสหวานจัด
ผลจำปาดะผ่าครึ่ง

จำปาดะในตลาดที่ประเทศจีน

   ผลจำปาดะสามารถทำอาหารได้หลากหลาย มีกลิ่นเฉพาะตัว ทั้งกินเป็นผลไม้สด ชุบแป้งข้าวเจ้าแล้วทอดซึ่งเป็นที่นิยมในภาคใต้ของไทย สิงคโปร์และมาเลเซีย เมล็ดอย่างเดียวนำไปต้มให้สุก หรือใส่ในกับข้าวเช่นแกงไตปลา ผลอ่อนต้มกับกะทิใช้เป็นผัก ผลอ่อนนำไปแกงได้ เนื้อไม้สีเหลืองหรือน้ำตาลใช้ทำเครื่องเรือนและต่อเรือ เปลือกลำต้นใช้ฟั่นเชือก

ประโยชน์ของจำปาดะ
1.ประโยชน์จำปาดะ ช่วยบำรุงร่างกาย (เนื้อผลสุก)
2.จำปาดะมีวิตามินเอสูง จึงช่วยบำรุงและรักษาสายตาได้เป็นอย่างดี
3.เปลือกไม้ของจำปาดะมีสรรพคุณที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและช่วยรักษาโรคมาลาเรียได้ (เปลือก)
4.เส้นใยของจำปาดะสามารถช่วยขับไขมันและสารพิษออกไปจากร่างกายได้
5.ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ (เนื้อผลสุก)
6.จำปาดะ สรรพคุณช่วยแก้อาการท้องเสีย (เนื้อผลอ่อน)
7.สรรพคุณของจำปาดะ ช่วยฝาดสมาน (เนื้อผลอ่อน)
8.เมล็ดจำปาดะช่วยขับน้ำนมในสตรีหลังคลอดและช่วยบำรุงร่างกายได้ (เมล็ด)
9.ในมาเลเซีย มีการใช้รากของจำปาดะเป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมที่ใช้สำหรับหญิงที่เพิ่งคลอดบุตร
10.ผลสุกนิยมรับประทานสดเป็นผลไม้ มีรสหวานจัดหอมหวนชุ่มปากชุ่มคอ (บางคนได้กินแล้วหยุดไม่ได้เลยทีเดียว)
11.สำหรับทางภาคใต้จะนิยมนำไปทำจําปาดะทอด โดยใช้เนื้อพร้อมเมล็ดไปคลุกกับแป้ง น้ำตาล ไข่ นม งา 12.แล้วนำไปทอดน้ำมัน ขอบอกครับว่าอร่อยน่ารับประทานมาก แต่เสียดายหากินยากมาก ๆ
13.ใช้ทำเป็นขนมหวาน เช่น ข้าวต้มมัดไส้จำปาดะ เป็นสูตรเดียวกันกับข้าวต้มมัดทั่วไปแต่ต้องแกะเอาเมล็ด14.ออก เอาเฉพาะเนื้อมาใช้แทนกล้วย รสชาติหวาน หอมมันเข้มข้นมาก หรือใช้ทำเป็นข้าวตอกน้ำกะทิจำปาดะ แกงบวดจำปาดะ เป็นต้น
15.เมล็ดใช้ทำเป็นอาหารคาว เช่น นำมาใส่แกงพุงปลา แกงคั่วกะทิ หรือจะรับประทานร่วมกับขนมจีนอร่อยนักแล
16.จำปาดะ ประโยชน์ผลอ่อนใช้ปรุงเป็นอาหาร
17.เมล็ด สามารถนำไปต้มหรือนำไปเผาไฟรับประทานได้ (บางคนนิยมรับประทานเมล็ดมากกว่าเนื้อเสียอีก)
18.ใบอ่อนจำปาดะใช้เป็นผักจิ้ม หรือใช้รับประทานร่วมกับส้มตำได้
19.แก่นของต้นจำปาดะนำไปต้มใช้ย้อมสีจีวรพระได้
20.ลำต้นสามารถใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ หรือใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ทำการเกษตร ฯลฯ

13.ชมพู่น้ำดอกไม้



   ชมพู่น้ำดอกไม้ (อังกฤษ: Syzygium jambos) หรือชื่ออื่นๆ เช่น ชมพู่ โรสแอปเปิล แอปเปิลมาเลย์ พลัมมาลาบาร์ จามบู ชามพัคกา และโพมาโรสา เป็นต้นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่งมีต้นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่พัฒนาสายพันธุ์มาจากอินเดีย ผลมีรสหวานหอมมีน้ำเยอะลักษณะคล้ายลูกแพร์ มีสายพันธุ์หลักๆ 2 คือ สายพันธุ์ที่มาจากประเทศไทยผลจะมีสีเขียวอ่อน ส่วนสายพันธุ์ที่มาจากประเทศมาเลเซียผลจะมีสีแดง
   ชมพู่น้ำดอกไม้น้ำดอกไม้มีชื่อพื้นเมืองอื่นๆอีก คือ ฝรั่งน้ำ (ใต้) มะซามุด (น่าน) มะน้ำหอม (เหนือ) มะห้าคอกลอก (แม่ฮ่องสอน) และ ยามู่ปะนาว่า (มลายู ยะลา) 

ประโยชน์
  ตามตำรายาโบราณใช้เนื้อชมพู่มาทำแห้งแล้วบดเก็บไว้กินเป็นยาบำรุงร่างกาย เมล็ดที่เราทิ้งไปไม่เห็นค่า ใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย แก้โรคเบาหวาน แม้แต่ใบก็ใช้เป็นยาลดไข้ แก้ตาเจ็บได้

14.ชำมะเลียง

       ชำมะเลียง (อังกฤษ: Luna nut; ชื่อวิทยาศาสตร์: Lepisanthes fruiticosa) หรือพุมเรียง ภาคเหนือเรียกผักเต้า มะเถ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกมะเกียง หวดข้าใหญ่ จังหวัดตราดเรียกโคมเรียง เป็นไม้ยืนต้นที่พบได้ทั่วประเทศไทยและเป็นพืชท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยเรียวยาว มีสีเขียวตลอดทั้งปี ดอกออกเป็นช่อที่กิ่งและต้น ดอกสีม่วง ติดผลช่วงกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ผลกลมออกเป็นช่อ เมื่ออ่อนสีม่วง รสฝาด พอแก่เปลี่ยนเป็นสีดำ รสหวานอ่อนๆ
ประโยชน์
        นิยมกินเป็นผลไม้สด ใช้แก้โรคท้องเสียในเด็ก ทำน้ำผลไม้ ยอดอ่อนใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก รากเป็นยาแก้ไข้ แก้ร้อนใน แก้ไข้เหนือ แก้ท้องผูก แก้ไข้สันนิบาต แก้เลือดกำเดาไหล แก้ไข้พิษ แก้ท้องเสีย แก้ไข้กาฬ ผลถ้ารับประทานมากไปทำให้ท้องผูก


15.เชอร์รี 
     เชอร์รี เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ต้นเชอร์รีเป็นไม้ยืนต้นในสกุล Prunus สกุลย่อย Cerasus เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ชอบอากาศหนาวเย็น ใบเขียวเข้ม ดอกสีขาวอมชมพู ผลกลม ขนาดเล็ก เปลือกมีทั้งสีแดงเข้ม สีส้มและสีเหลือง โดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือเชอร์รีหวานกับเชอร์รีหวานอมเปรี้ยว แหล่งที่ปลูกเชอร์รีมากคือทวีปอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และญี่ปุ่น


16.ตะขบฝรั่ง

 

   ตะขบฝรั่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Muntingia calabura) เป็นพืชเพียงสปีชีส์เดียวในสกุล Muntingia เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในภาคเหนือของเม็กซิโก บริเวณทะเลแคริบเบียน อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ฝั่งตะวันตก จนถึงเปรูและโบลิเวีย พบกระจายพันธุ์ทั่วประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง เช่น มาเลเซีย

 
ต้นตะขบฝรั่งในไฮเดอราบัด อินเดีย

ใบและผลในไฮเดอราบัด อินเดีย

ลักษณะ
   ตะขบฝรั่งเป็นไม้ต้น ขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-7 เมตร ลำต้นมีเปลือกสีเทา กิ่งแผ่สาขาขนานกับพื้นดิน ตามกิ่งมีขนปกคลุม ขนนุ่ม และปลายเป็นตุ่ม เมื่อจับยอดอ่อนจะรู้สึกว่าเหนียวมือ ใบเดี่ยว เรียงสลับแบบทแยงกัน ลักษณะใบรูปขอบขนานแกรมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบข้างหนึ่งมน ข้างหนึ่งแหลม ขอบใบหยัก มีขนปกคลุมหนาแน่น เส้นใบมี 3-5 เส้น ด้านบนสีเขียวด้านล่างสีนวล ก้านใบยาว มีขน โคนก้านเป็นปม ๆ ดอกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ เหมือนง่ามใบ เวลาบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เซนติเมตร ก้านดอกยาว มีขน กลีบรองกลีบดอก 5 กลีบ ไม่ติดกัน สีเขียว รูปหอก ปลายแหลมเป็นหางยาว โคลนกลีบตัดด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง กลีบดอก 5 กลีบ สีขาว รูปไข่กลับป้อม ๆ ย่น เกลี้ยง ผลทรงกลม ผิวบางเรียบ ขนาด 1.5 เซนติเมตร เมื่อดิบสีเขียว เมื่อสุกมีสีแดง รสหวาน เมล็ดขนาดเล็ก ๆ มีจำนวนมาก

การใช้ประโยชน์
  ผลตะขบฝรั่งเป็นที่นิยมรับประทานในเม็กซิโก มีขายในตลาด ผลนำไปแปรรูปเป็นแยมและนำใบไปแปรรูปเป็นชา ในบราซิล นิยมปลูกไว้ริมฝั่งแม่น้ำ เมื่อผลร่วงลงในน้ำจะเป็นอาหารปลา ในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ รับประทานเป็นผลไม้สดแต่ไม่มีจำหน่าย ในไทย รับประทานเป็นผลไม้สด หรือแปรรูปเป็นไวน์ทางด้านสมุนไพร ใช้ดอกเป็นยาแก้ปวดและแก้อักเสบ ไม้เป็นไม้เนื้ออ่อน ใช้งานช่างไม้ได้ เปลือกใช้เป็นแหล่งของเส้นใย

17.ตะลิงปลิง
   ตะลิงปลิงเป็นไม้ผลผลในวงศ์ Oxalidaceae เป็นพืชเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลของบราซิล เป็นไม้ยืนต้น สูงได้ถึง 15 เมตร ออกผลตามกิ่งก้านและลำต้นเป็นพวงแน่นและสวยงาม จึงเป็นที่นิยิมปลูกทั่วไป นอกจากนี้ผลยังสามารถใช้บริโภค ตะลิงปลิงเป็นพืชร่วมวงศ์กับมะเฟือง มีส่วนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือ ผลมะเฟืองมีขนาดใหญ่กว่าผลตะลิงปลิง

 
ประโยชน์
ราก สรรพคุณแก้พิษร้อนใน กระหายน้ำ ฝาดสมาน บำรุงกระเพาะอาหาร แก้โลหิตออกตามกระเพาะอาหาร ลำไส้ ดับพิษร้อนของไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้คัน แก้คางทูม แก้ไขข้ออักเสบ รักษาสิว รักษาซิลิส บรรเทาโรคเก๊าท์ บรรเทาการอักเสบของลำไส้ใหญ่
ใบ สรรพคุณใช้พอกแก้คัน ใช้ภายในโดยนำมาต้มดื่มรักษาอาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ รักษาซิฟิลิส แก้ไขข้ออักเสบ รักษาคางทูม รักษาสิว
ดอก นำมาชงเป็นชา สรรพคุณแก้ไอ
ผล สรรพคุณเจริญอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร ฝาดสมานและลดไข้ แก้เสมหะเหนียว ฟอกโลหิต ยาบำรุงแก้ปวดมดลูก แก้ไอ บรรเทาโรดริดสีดวงทวาร แก้ลักปิดลักเปิด
ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซียใช้ส่วนผสมของใบกับผลไม้รักษาซิฟิลิส


18.แตงโม
 
ใบแตงโม

    แตงโม (อังกฤษ: watermelon; ชื่อวิทยาศาสตร์: Citrullus lanatus) เป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียก บักโม ภาคเหนือเรียก บะเต้า จังหวัดตรังเรียกแตงจีน ถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายคาลาฮารีทวีปแอฟริกา ชาวอียิปต์เป็นชาติแรกที่ปลูกแตงโมไว้รับประทานเมื่อสี่พันปีมาแล้ว ชาวจีนเริ่มปลูกแตงโมที่ซินเกียงสมัยราชวงศ์ถัง และชาวมัวร์ได้นำแตงโมไปสู่ทวีปยุโรป แตงโมแพร่หลายเข้าสู่ทวีปอเมริกาพร้อมกับชาวแอฟริกาที่ถูกขายเป็นทาส แตงโมต้องการดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ น้ำไม่ขัง มักปลูกกันในดินร่วนปนทราย ในประเทศไทยมีการปลูกแตงโมทั่วทุกภูมิภาค และปลูกได้ทุกฤดู
    แตงโมเป็นพืชในวงศ์เดียวกับแคนตาลูปและฟัก เป็นพืชล้มลุกเป็นเถา อายุสั้น เถาจะเลื้อยไปตามพื้นดิน มีขนอ่อนปกคลุม ผลมีทั้งทรงกลมและทรงกระบอก เปลือกแข็ง มีทั้งสีเขียวและสีเหลือง บางพันธุ์มีลวดลายบนเปลือก ในเนื้อมีเมล็ดสีดำแทรกอยู่ แตงโมที่นิยมปลูกโดยทั่วไปมี 3 พันธุ์คือปลาดุก พันธุธรรมดา มีเมล็ดขนาดเล็ก รสหวาน แบ่งย่อยได้อีกหลายพันธุ์ เช่น แตงโมจินตหรา ผลยาวรี เปลือกเขียวเข้ม มีลาย เนื้อสีแดง แตงโมตอร์ปิโด ลูกรีกว่าพันธุ์จินตหรา แตงโมกินรี ผลกลม เนื้อแดง แตงโมน้ำผึ้ง ผลกลม เนื้อเหลือง แตงโมไดอานา เปลือกเหลือง เนื้อสีแดง แตงโมจิ๋ว ผลขนาดเท่ากำปั้น เนื้อเหลือง เป็นต้น
   พันธุ์ไม่มีเมล็ด เป็นพันธุ์ผสมเพื่อใช้ในการส่งออก ไม่มีเมล็ดแก่สีดำภายใน ในญี่ปุ่นมีการทำแตงโมให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมโดยให้ผลเจริญในกล่อง เพื่อความสะดวกในการขนส่ง
พันธุ์กินเมล็ด ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาคั่วเป็นเม็ดก๋วยจี๊ พันธุ์นี้มีเนื้อน้อย เมล็ดขนาดใหญ่

แตงโมไม่มีเมล็ด

แตงโมเนื้อเหลือง

แตงโมทรงสี่เหลี่ยมจากญี่ปุ่น
การใช้ประโยชน์
   แตงโมเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติเย็น จะช่วยลดอาการปวด ไข้ คอแห้ง บรรเทาแผลในปาก เปลือกแตงโมนำไปต้มเดือด แล้วเติมน้ำตาลทราย ดื่มเพื่อป้องกันเจ็บคอ กินเป็นผลไม้สด ทำเป็นน้ำผลไม้ เปลือกหรือผลอ่อนใช้ทำอาหาร เช่น แกงส้ม ในเวียดนาม นิยมรับประทานเมล็ดแตงโมในเทศกาลปีใหม่
   พบกรดอะมิโน citrulline เป็นครั้งแรกในแตงโม โดยแตงโมมี citrulline มาก ถ้ารับประทานในปริมาณหลายกิโลกรัมจะตรวจพบในเลือดของผู้รัประทานได้ ซึ่งจะเข้าไปรบกวนวัฏจักรยูเรียในเนื้อผลมีเบตาแคโรทีน เปลือกที่มีสีเขียวอ่อนหรือขาวของแตงโมรับประทานเป็นผักได้ นำไปทำไวน์ได้  ใช้ทำเป็นทรีทเม้นท์บำรุงผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว แก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า และลดอาการแสบแดง วิธีการง่ายๆ เพียงแค่นำเนื้อแตงโมมาฝานบางๆ แล้วนำมาวางไว้บนผ้าขาวบาง จากนั้นนำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด


19.แตงไทย
        แตงไทย (อังกฤษ: Muskmelon; ชื่อวิทยาศาสตร์: Cucumis melo) อยู่ในวงศ์ Cucurbitaceae ทางภาคเหนือเรียก แตงลายหรือมะแตงสุก ภาคอีสานเรียก แตงจิงหรือแตงกิง ภาษาเขมรเรีบกซกเซรา ภาษากะเหรี่ยงเรียก ดี มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ตั้งแต่เชิงเขาหิมาลัยไปถึงแหลมโคโมริน รวมทั้งพันธุ์ที่ผิวเรียบ เช่น honeydew crenshaw และ casaba และพันธุ์ที่ผิวไม่เรียบ เช่น แคนตาลูป แตงเปอร์เซีย และ Christmas melon แตงกวาอาร์เมเนีย จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับแตงไทย แม้ว่ารูปร่างและรสชาติจะใกล้เคียงกับแตงกวา
แตงไทยป็นพืชล้มลุก ลำต้นเป็นเถาเลื้อย มีขนอ่อน ปกคลุมตลอดทั้งลำต้นและใบ ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ขอบใบหยัก ก้านใบยาว ดอกสีเหลือง มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ ผลมีขนาดค่อนข้างใหญ่ รูปร่างกลมยาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 12-15 ซม. ยาว 20-25 ซม. ผลอ่อนสีเขียวและมีลายสีขาวพาดยาว เมื่อผลแก่เปลือกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผิวเรียบเป็นมันเนื้อในผลสีเหลืองอ่อนอมเขียว กลิ่นหอม มีเมล็ดรูปแบนรี สีครีมจำนวนมาก แตงไทยให้ผลผลิตในช่วงหน้สร้อน สามารถปลูกได้ทุกภาคทั่วประเทศไทย


การใช้ประโยชน์
       ผลอ่อนของแตงไทยนำมากินเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกหรือนำไปดอง ผลสุกมีรสจืดหรืออมหวานเล็กน้อย เนื้อซุย ชุ่มน้ำ กลิ่นหอม นิยมกินสดหรือทำของหวาน เช่น น้ำกะทิแตงไทย และทำน้ำปั่น ทำเป็นผลไม้แห้งได้ บางพันธุ์ปลูกเพื่อนำเมล็ดไปสกัดน้ำมัน บางชนิดปลูกเพื่อต้องการนำกลิ่นหอมไปใช้ประโยชน์
        แตงไทยมีคาร์โบไฮเดรด แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซีเนื้อมีฤทธิ์เย็น ช่วยดับกระหาย แก้เลือดกำเดาไหล ดอกอ่อนตากแห้งต้มดื่มช่วยให้อาเจียน แก้โรคดีซ่าน หรือบดเป็นผงพ่นแก้แผลในจมูก เมล็ดแก่ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร แก้ไอ รากต้มดื่มช่วยระบายท้อง









แตงไทยสี่เหลี่ยมปลูกในญี่ปุ่น เรียกว่า "Kakumero"
20.ท้อ
   
   ลูกท้อ (จีน: อังกฤษ: Peach; ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus persica) เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน จัดเป็นไม้พุ่มผลัดใบ อยู่ในสกุลPrunus อันเป็นสกุลเดียวกันกับ ซากุระบ๊วยเชอร์รี่ หรือนางพญาเสือโคร่ง
   ท้อจัดเป็นไม้เมืองหนาวที่จะขึ้นได้ดีในที่ ๆ มีความสูงตั้งแต่ 3,000 ฟุตขึ้นไป อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 10 องศาเซลเซียส ทนแล้งได้ดี เป็นไม้ใบเดี่ยว เรียงสลับ ขอบใบจัก ดอกเดี่ยว มักออกเป็นกระจุก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีขาวหรืออาจเป็นสีแดง หรือชมพู ดอกจะแตกออกมาก่อนใบ ผลเป็นผลสดเมล็ดเดี่ยว มีขนปกคลุมทั่วบริเวณผิว




   ท้อนับเป็นผลไม้ที่ใช้ประโยชน์ในการรับประทานมาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากนี้แล้วในวัฒนธรรมของชนชาติต่าง ๆ จะมีท้อเข้ามาร่วมอยู่ด้วย ได้แก่ ชาวจีนมีความเชื่อว่า ท้อเป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว และเกี่ยวข้องกับการกับการป้องกันสิ่งชั่วร้าย ถ้าดอกท้อของบานในระหว่างการฉลองวันปีใหม่ หมายถึง ปีต่อไปจะเป็นปีของโชคลาภ และดอกท้อยังใช้ประดับตกแต่งภายในบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล ป้องกันสิ่งชั่วร้ายอีกด้วย นอกจากนี้แล้วในสมัยโบราณ การเขียนป้ายคำอวยพรก็นิยมเขียนลงไม้ที่ทำมาจากต้นท้อ
   ในนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น โมโมทาโร่ (桃太郎) ซึ่งเป็นเด็กชายที่มีพละกำลังมากมายและเป็นผู้นำในการปราบปีศาจ ก็กำนิดมาจากลูกท้อ เป็นต้น สำหรับในประเทศไทย ท้อมีการนำเข้ามาปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ เช่น โครงการหลวง โดยมีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น มะฟุ้ง, มักม่น, มักม่วน, หุงคอบ, หุงหม่น เป็นต้น

ประโยชน์ของลูกท้อ
ลูกท้อ ประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด                                
ประโยชน์ลูกท้อช่วยลดอาการเหงื่อออกมาก
ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ (เมล็ด)
ช่วยบำรุงและรักษาสายตา
ช่วยบำรุงโลหิต (เมล็ด)
ช่วยลดความดันโลหิต
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยเสริมสร้าง บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ช่วยแก้อาการไอ (เมล็ด)
ลูกท้อ สรรพคุณช่วยรักษาโรคหอบหืด















อ้างอิง
นิดดา หงส์วิวัฒน์ และทวีทอง หงส์วิวัฒน์. ชำมะเลียง ใน ผลไม้ 111 ชนิด: คุณค่าอาหารและการกิน. กทม. แสงแดด. 2550 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.