Type Here to Get Search Results !

10 สัตว์ที่กัดเจ็บปวดและต่อยคุณอาจถึงตายได้ (1)



1.บราซิลแมงมุม (brazilian wandering spider)

        แมงมุมสายพันธุ์นี้บางครั้งก็จะเรียกว่าแมงมุมกล้วยเพราะพวกเขาจะพบบ่อยในใบกล้วย พวกเขามีท่าทางการป้องกันเชิงรุกในการที่พวกเขายกขาหน้าตรงขึ้นไปในอากาศ พวกเขามีความเป็นพิษมากต่อมนุษย์และพวกเขาจะถือเป็นเรื่องคอขาดบาดตายของแมงมุมของโลก พิษของพวกเขาเป็นพิษต่อระบบประสาททำให้เกิดอาการเช่นปวดมากน้ำลายไหล, หัวใจเต้นผิดปกติและเป็นเวลานานแข็งตัวเจ็บปวด (ที่รู้จักกันแข็งตัว)

2.ปลาแคนดิรู (Candiru Fish)
          เหล่าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เป็นอาหารหลักในเลือดมักจะสามารถพบได้ในเหงือกของปลาอื่น ๆ และได้รับทราบเพื่อว่ายน้ำขึ้นท่อปัสสาวะของมนุษย์ เมื่อพวกเขากระดิกทางของพวกเขาภายในพวกเขาขยายเนสท์เล่ในและส่งคุณไปยังห้องฉุกเฉินในความต้องการของการสกัดการแพทย์รุกราน แม้ว่าบางครั้งถือว่าเป็นตำนานเมืองที่ candiru เป็นภัยคุกคามที่แท้จริงให้กับนักว่ายน้ำไม่รู้สาเหตุและความเจ็บปวดจากการกัดของพวกมัน


3.แมงป่องเปลือกไม้อะริโซน่า (Arizona Bark Scorpion)

        เหล่านี้เป็นแมงป่องมีพิษมากที่สุดในทวีปอเมริกาเป็นความจริงที่น่ากลัวพิจารณาว่านี่คือแมงป่องบ้านพบมากที่สุดในรัฐแอริโซนา พิษทำให้เกิดอาการปวดเฉียบพลันและสามารถนำไปสู่ฟองที่ปากหายใจลำบากและชักกล้ามเนื้อ อาจจะกลายเป็นแขนขาตรึง ผ่านพิษร้ายแรงจะไม่ค่อยมีผลกระทบของมันสามารถมีอายุการใช้นานที่สุดเท่าที่เจ็ดสิบสองชั่วโมงระทมทุกข์


4. งูแมวเซา
          เป็นงูที่มีรูปร่างอ้วนป้อม ลำตัวสั้น หางสั้น เวลาตกใจหรือถูกรบกวนมักขดตัวเตรียมสู้และระวังตัว พร้อมทั้งทำเสียงขู่คล้ายแมวหรือเสียงของยางรถยนต์รั่ว โดยการสูบลมเข้าไปในตัวจนตัวพอง แล้วพ่นลมออกมาทางรูจมูกแรง ๆ แทนที่จะเลื้อยหนี เป็นงูที่ฉกกัดได้รวดเร็วแทบไม่ทันตั้งตัวทั้ง ๆ ที่ขดตัวอยู่ในลักษณะปกติ ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อนอมเทา มีเกล็ดสีชมพูแซมบริเวณสีข้าง มีลายลักษณะทรงกลมสีน้ำตาลเข้มตลอดทั้งตัว เกล็ดมีขนาดเล็กและมีสัน หัวเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมและมีลายดำคล้ายลูกธนู มีเกล็ดเล็กละเอียดบนหัว เขี้ยวพิษมีความยาว
         เป็นงูที่มีพิษต่อผลการแข็งตัวของเลือด Factor X และ Factor V โดยตรง โดยจะไปกระตุ้นprothrombin เป็น thrombin ซึ่งทำให้เกิดการสลายไฟบริโนเจนเป็นไฟบรินในกระแสเลือด จึงทำให้เกิดเลือดออกง่าย เนื่องจากองค์ประกอบในการแข็งตัวของเลือด ถูกใช้หมดไป นอกจากนี้แล้วพิษของงูแมวเซายังมีผลต่อไต ทำให้เกิดอาการไตวายได้ และยังมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงโดยตรง โดยอาการของผู้ที่ถูกกัดจะแสดงออกดังนี้ คือ มีอาการปวดและมีอาการบวมมาก อาการบวมเกิดเกิดขึ้นได้ภายใน 2-3 นาทีภายหลังถูกกัด มักจะมีรอยเขี้ยว 2 จุดซึ่งมีเลือดไหลออกตลอดเวลา และบริเวณรอบแผลจะมีสีคล้ำบริเวณโดยรอบเขี้ยวจะบวมอย่างชัดเจนภายใน 15-20 นาที และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งบริเวณที่ถูกกัดบวมหมดภายในเวลา 12-24 ชั่วโมง และอาจเริ่มพองและมีเลือดออก ผู้ที่ได้รับพิษมากจะมีอาการของเลือดออกง่ายภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง เช่น เลือดออกเป็นจ้ำ ๆ บริเวณผิวหนัง เลือดออกตามไรฟัน ไอมีเสมหะปนเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด เลือดออกจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งความดันโลหิตต่ำ ไตวายและเสียชีวิตลงในที่สุด 

5.ปลาหิน (Stonefish)
   มีรูปร่างโดยรวม คือ ลำตัวป้อมเกือบกลม หัวขนาดใหญ่ส่วนหัวมีหนามจำนวนมาก สีลำตัวคล้ำมีลายเลอะ ทำให้แลดูคล้ายก้อนหิน ลำตัวสากและมีหนามเล็ก ๆ หนังหนาและเป็นปุ่ม เกล็ดละเอียด บางชนิดไม่มีเกล็ด ครีบหลังยาว ครีบอกกว้าง มีก้านครีบแข็งขนาดใหญ่ที่ครีบหลัง ครีบอก และครีบท้อง ก้านครีบแข็งมีลักษณะเป็นหนาม ซึ่งก้านครีบนี้มีพิษร้ายแรงมาก โดยต่อมพิษของก้านครีบแข็งอยู่ใต้ชั้นผิวโดยอยู่รอบส่วนกลาง ส่วนปลายของก้านหนามหุ้มห่อด้วยเนื้อเยื่อ พิษจะถูกปล่อยออกเมื่อเยื่อหุ้มหนามฉีกขาด อันตรายเกิดจากการไปสัมผัสถูกก้านครีบแข็งบริเวณต่าง ๆ และหนามบริเวณหัว เนื่องจากปลาหินชอบอยู่นิ่ง ๆ ทำให้ดูคล้ายก้อนหิน อันเป็นที่มาของชื่อสามัญ หากไปสัมผัสหรือเหยียบได้ พิษมีความรุนแรงมากเมื่อถูกตำหรือบาดจะปวดและบวมทันที ความเจ็บปวดอาจอยู่นานหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ในกรณีที่รับพิษจำนวนมากหรือแพ้ ผู้ได้รับพิษอาจมีอาการคอแห้ง ปวดเมื่อยตามข้อต่าง ๆ ซึม เพ้อ ไม่ได้สติ จนกระทั่งจนเสียชีวิตได้ในที่สุด โดยปลาหินถือว่าเป็นปลาจำพวกหนึ่งที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก
ปลาหิน เป็นปลาที่หากินอยู่ตามพื้นทะเล โดยกบดานอยู่กับพื้นนิ่ง ๆ เพื่อรอฮุบเหยื่อซึ่งเป็นอาหารไปทั้งคำ กระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปในภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก โดยอาจพบได้ในแหล่งน้ำกร่อย เช่น ปากแม่น้ำ หรือตามชายหาดเมื่อน้ำลด

6.แมงมุม แม่ม่ายดำ (Black Widow)
        แมงมุมแม่ม่ายดำ (black widow spider) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Latrodectus mactans เป็นแมงมุมขนาดเล็ก พบได้ในหลายประเทศ แต่มีชุกชุมมากในทวีปอเมริกาใต้และทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปออสเตรเลีย ชื่อของแมงมุมชนิดนี้สื่อถึงพฤติกรรมที่แมงมุมตัวเมียมักจะกินแมงมุมตัวผู้หลังจากผสมพันธุ์ คนมักถูกกัดได้จากการไปสัมผัสโดยบังเอิญ ส่วนใหญ่พบใยแมงมุมชนิดนี้อยู่ตามมุมประตูหรือหน้าต่าง โรงรถ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ จึงอาจทำให้คนถูกแมงมุมกัดบริเวณอวัยวะเพศได้ด้วย
แมงมุมแม่ม่ายดำตัวเมียจะมีความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร มีสีดำ ตัวกลม ที่ท้องจะมีลายเป็นรูปนาฬิกาทรายสีแดง ส่วนแมงมุมแม่ม่ายดำตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวเมียประมาณ 20 เท่า และมีสีน้ำตาล ไม่พบลักษณะนาฬิกาทรายที่ท้องของตัวผู้


7.ผึ้งหยาดน้ำ (SWEAT BEE)
           ผึ้งหยาดน้ำมีเป็นครอบครัวที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วยขนาดเล็กเพื่อผึ้งขนาดกลางที่มักจะสีเข้มและเหมือนโลหะแวววาว การต่อยของพวกมันจะถือเป็นหนึ่งในความเจ็บปวดมากที่สุดในหมู่แมลงและตามให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างใดอย่างหนึ่งก็รู้สึกเหมือนมันเผาผลาญและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน

8.มด BULLHORN ACACIA ANT
         มด BULLHORN ACACIA ANT เป็นสายพันธุ์ของมดชนิด Pseudomyrmex มด BULLHORN ACACIA ANTมีร่างกายสีส้มสีน้ำตาลประมาณสามมิลลิเมตรความยาวและตามีขนาดใหญ่มาก มดกระถินเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดและตั้งชื่อตามชื่อที่อาศัยอยู่ใน symbiosis กับ มด BULLHORN ACACIA ANT(Acacia cornigera) ทั่วอเมริกากลาง หากคุณมีโชคร้ายที่จะกัดมันคุณจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือนใครบางคนหยิกแก้มของคุณ



9.ปลาปักเป้า 
       ปลาปักเป้า คือสัตว์มีพิษที่มีคนนิยมบริโภคมาก โดยเฉพาะในแถบประเทศญี่ปุ่น (ปลาปักเป้าภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ฟูกุ) และเกาหลี (ในส่วนของภาษาเกาหลีจะเรียกว่า บ๊อค ฮัง) โดยเนื้อปลาปักเป้านั้น จริงๆแล้วไม่ได้มีพิษ แต่ส่วนที่มีพิษก็คือพวกผิวหนังและเครื่องในของปลาปักเป้า แต่พิษเหล่านี้มักจะซึมเข้าไปในเนื้อตอนแล่ พ่อครัวที่จะแล่ปลาปักเป้าจึงต้องมีใบอนุญาต เพราะถ้าหากกินพิษของปลาปักเป้าเข้าไป อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที

10.กบลูกดอกสีน้ำเงิน
    กบลูกดอกสีน้ำเงิน นั้นเป็นสัตว์ที่อยู่ในป่าฝนในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เป็นกบที่มีสีสันสวยงามแต่พิษของมันร้ายแรงมาก โดยพิษของกบลูกดอก 1 ตัว สามารถฆ่าคนได้ถึง 10 คนและฆ่าหนูได้ถึง 20,000 ตัว พิษของมันเพียง 5 ไมโครกรัม (เท่ากับปลายเข็ม) ก็สามารถฆ่าคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ๆได้ พิษของมันถูกนำมาใช้ในลูกดอกอาบยาพิษของอินเดียแดง มันจึงถูกเรียกว่ากบลูกดอก

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น
* Please Don't Spam Here. All the Comments are Reviewed by Admin.

Top Post Ad