เป็นลิงจำพวกค่าง มีรูปร่างอ้วนลงพุง ขนตามลำตัวสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเด่นคือ มีจมูกที่ยาวเหมือนงวงช้างห้อยเลยมาจนปิดปากตัวเอง ซึ่งมีเฉพาะในตัวผู้ในวัยที่โตเต็มที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบว่ามีไว้เพื่ออะไร นอกเหนือจากการหายใจ ในขณะที่ตัวเมียและลิงตัวผู้วัยอ่อน จะไม่มีจมูกลักษณะดังกล่าวนี้ โดยจมูกของตัวผู้จะโตตามขนาดของร่างกาย
เคยมีการสันนิษฐานว่าจมูกที่ยาวของมีไว้เพื่อใช้ในการว่ายน้ำ แต่เหตุผลข้อนี้ก็ต้องตกไป เพราะตัวเมียก็ว่ายน้ำเหมือนกัน แต่ตัวเมียกลับมีจมูกที่เล็กกว่าครึ่งหนึ่งของตัวผู้ นักชีววิทยาบางกลุ่มก็สันนิษฐานว่า จมูกมีหน้าที่ในการระบายอากาศจากภายในร่างกาย เนื่องจากตัวผู้มีขนาดตัวและมีกระเพาะที่ใหญ่มาก ภายในร่างกายจึงมีความร้อนมาก บ้างก็อธิบายโดยใช้หลักการของชาร์ล ดาร์วิน ว่า ตัวเมียจะชอบตัวผู้ที่มีจมูกใหญ่ เมื่อนานเข้าตัวผู้ที่มีจมูกเล็กจึงลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหลือแต่ตัวที่จมูกใหญ่ คล้ายกับว่ายิ่งตัวผู้มีจมูกยาวใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของตัวเมียมากขึ้นเท่านั้น
9 วอร์ทธ็อก (Warthog)
วอร์ทธ็อก (Warthog) สัตว์ป่าหน้าตาประหลาดจำพวกหมูในแอฟริกา มีงา 2 งา จมูก 2 ข้างที่อยู่ห่างกัน เดือย 2 ข้าง ที่โผล่ออกมาข้างใบหน้า และมีเส้นผมบนหัวอยู่หย่อมหนึ่ง แต่เชื่อหรือไม่ว่าเนื้อของหมูป่าวอร์ทธ็อกกลายเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยชั้น เลิศ ซึ่งคุณสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในแอฟริกา ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมนำเนื้อหมูป่ามาปิ้งเหมือนบาร์บีคิวกินกันอย่างเอร็ด อร่อย
8 สุนัขพันธุ์ไชนิสเครสเต็ด
สุนัขพันธุ์ไชนิสเครสเต็ด (Chinese Crested) ด้วยลักษณะภายนอกซึ่งผิดปกติจากสุนัขทั่วไป ผิวหนังเนียนเกลี้ยง ไม่มีรูขุมขน ทำให้หลายคนมักมองว่าลักษณะเป็นเหมือนสุนัขขี้เรื้อน หรือสุนัขที่เป็นโรคจนขนร่วงไปหมด ทำให้ดูเป็นสุนัขที่น่าเกลียด ไม่น่าสัมผัส จึงไม่เป็นที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยมากนัก แต่ก็ยังมีกลุ่มคนรักสุนัขที่นำเจ้าสุนัขพันธุ์นี้มาเลี้ยง และดูแลอย่างดี เพราะเป็นสุนัขที่แปลก และหายาก จนบางตัวมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท
7 แร้งไก่งวง
แร้งไก่งวง (Turkey Vulture) นกรูปร่างประหลาดมีหัวคล้ายไก่งวง เป็นนกแร้งสายพันธุ์เดียวกับเหยี่ยว หน้าตาอัปลักษณ์, หัวโล้น และกินซากศพเป็นอาหาร ซึ่งดูแล้วไม่น่ารับประทานเอาเสียเลย อีกทั้ง แร้งไก่งวง ยังเป็นอาหารต้องห้ามของคนในหลาย ๆ วัฒนธรรม ซึ่งเชื่อกันว่า คนที่กินแร้งไก่งวงจะถูกสาปแช่งและได้รับพิษจนอาจจะถึงแก่ความตายได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจเป็นไปได้ว่า พวกเขารับประทานมันทั้งที่ยังไม่สุกดี เชื้อโรคจึงยังไม่ตายก็เป็นได้ แต่ทราบหรือไม่ว่าเมนูสเต็กแร้งไก่งวงก็รสชาติดีไม่แพ้ไก่งวงเลยทีเดียว
6 ปีศาจทะเล หรือ มังค์ฟิช
มังค์ฟิช (Monkfish) ปลาทะเลน้ำลึกหน้าตาประหลาด ซึ่งมีหัวขนาดใหญ่ ลำตัวเรียวเล็ก มีผิวขรุขระทั่วลำตัว และฟันซี่เล็กแหลมคม ซึ่งเจ้าปีศาจทะเลนี้ ถือได้ว่ามีราคาแพงและมักจะถูกนำมาปรุงเมนูอาหารอันโอชะของคนทั่วไป เพราะให้โปรตีนสูง ไขมันต่ำ โดยจะตัดหัวออก รับประทานเฉพาะลำตัวเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหาง ซึ่งหลาย ๆ คนเปรียบหางของมังค์ฟิชเทียบได้กับกุ้งล็อบสเตอร์เลยทีเดียว
5 ตุ่นจมูกดาว
ตุ่นจมูกดาว อาศัยอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มชื้นแฉะ ในบริเวณภาคตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือระหว่างแคนาดาและสหรัฐอเมริกา โดยพบไปถึงชายฝั่งทะเลในรัฐจอร์เจีย ดูหน้าของมันแล้วหน้าขยะแขยงสุด
4 อาย-อาย
เป็นลีเมอร์ที่เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์ที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง เพราะมีระยะเวลาในการดำรงเผ่าพันธุ์มายาวนาน ถือเป็นต้นพันธุกรรมของลีเมอร์ที่หลากหลายในปัจจุบัน อาย-อาย เป็นลีเมอร์ที่มีลักษณะแตกต่างไปจากลีเมอร์ทั่วไป คือ มีรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนปีศาจ มีใบหูที่กางโตเหมือนค้างคาว มีฟันที่แหลมคม โดยเฉพาะฟันหน้าที่จะไม่หยุดการงอกเหมือนกับสัตว์ฟันแทะ และมีนิ้วตีนที่ลีบเล็กเรียวยาวผอมติดกระดูก
3 ค้างคาว Horseshoe
ค้างคาว Horseshoe มีใบหน้าที่มีลักษณะเหมือนกับหู มันนับเป็นสัตว์ที่น่าเกลียดที่สุดหนึ่งเคยพบ ค้างคาว Horseshoe สามารถพบในภูมิภาคเขตร้อนและเย็น พวกมันมักจะมีสีน้ำตาลแดง แต่ไม่ค่อย มีความยาว 3.5-11 ซม. (1.4-4.3 นิ้ว) และมีน้ำหนัก 5-30 กรัม (0.17-1 ออนซ์)
2 ปลาค้างคาวปากแดง
ปลาค้างคาวปากแดง (red-lipped batfish) ปลาที่ดูไม่เหมือนปลา ดูหน้าตาควรจะเป็นสัตว์นอกโลกมากกว่า ลักษณะเด่นของปลาชนิดนี้คือปากสีแดงสด เป็นสัตว์น้ำเค็ม เป็นปลาที่ว่ายน้ำได้แย่มาก มีครีบทำหน้าที่ลักษณะคล้ายขาไว้สำหรับเดิน ปลาค้างคาวปากแดงมีหลายสายพันธุ์ มีชื่อเรียกตามสถานที่ถิ่นอาศัย แต่ละหลายพันธุ์จะมีลักษณะที่แตกต่างกันสังเกตุได้ง่ายที่ผิวหนัง บางชนิดจะเรียบ บางชนิดหลาบ และบางชนิดมีผิวลักษณะคล้ายขน แต่มีปากแดงสดเหมือนกันทั้งหมด
1 ปลาบร็อบ (Blobfish)
ปลาบร็อบ ( Blobfish ) หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ " Psychrolutes marcidus " เป็น ปลาน้ำลึก ที่พบในน่านน้ำ ออสเตรเลีย ( Australia ) และ แทสมาเนีย ( Tasmania ) เนื่องจากการเข้าถึงแหล่งที่อยู่อาศัยทำได้ยาก จึงไม่ค่อยมีผู้พบเห็นมากนัก
ปลาบร็อบ ( Blobfish ) ถูกพบในระดับความลึกที่มีแรงดันมากกว่าปกติ ถึง 12 เท่าทำให้ถุงลม ( ที่รู้จักกันในชื่อ " กระเพาะปลา " มีหน้าที่ เก็บกักอากาศ หรือปล่อยอากาศออกเพื่อประโยชน์ในการลอยตัว หรือดำน้ำ ) ขาดประสิทธิภาพ เพื่อที่ปลา สามารถลอยตัวได้ ปลาจึงมีเนื้อที่มีลักษณะเป็นวุ้น มีความหนาแน่น น้อยกว่าน้ำเล็กน้อย เพื่อให้สามารถลอยตัวเหนือพื้นทะเล โดยใช้พลังงานน้อยที่สุดในการลอยตัว และว่ายน้ำ จึงทำให้ปลาบร็อบ ไม่จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อ และข้อดีอย่างแรกก็คือมันสามารถทิ้งตัวลงมาจับเหยื่อจากด้านบนจึงเป็นการดีกว่าจะเข้า จู่โจมจากด้านหน้า จึงอาดจะได้รับอันตรายจากการที่เหยื่อต่อสู้
ที่มา wonderslist
